เคยบ้างไหม รู้สึกซึมเศร้า หดหู่ ผิดหวังซ้ำซ้อน หรือเจอปัญหาครอบครัวและการงานรุมเร้าจนหัวแทบระเบิด ตึงเครียดไปทุกส่วนของร่างกาย หากตอบว่าเคย คุณมีวิธีแก้ไขมันอย่างไร ดูหนัง ฟังเพลง อ่านการ์ตูน ทำงานอดิเรกที่ชอบ แต่ถ้าทำแล้วยังไม่หายล่ะ… ลองหาเวลาสั้นๆ วันสองวันเดินทางท่องเที่ยวดูบ้างไหม
การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่การสร้างความสุข แต่ยังเครื่องมือบำบัดทุกข์ ช่วยให้คุณผ่านพ้นวันที่เลวร้าย หากเครียดนักลองปันเวลาไปเที่ยวสักแป๊บแล้วคุณจะกลับมามีพลังต่อสู้กับอุปสรรคอีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำคัญคือสุดคือ ความทุกข์ต่างๆ ล้วนอยู่ที่ใจ จะขจัดความทุกข์ให้หมดสิ้น จิตใจของคุณต้องนิ่งและเข้าใจพวกมันเสียก่อน เพราะหากยังยึดติดกับทุกข์ที่เกิด ให้เดินทางรอบโลกสิบรอบมันก็ไม่ช่วยอะไรคุณแน่นอน
แล้วข้อดีของการเดินทางท่องเที่ยวที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นวิกฤตในจิตใจตัวเองไปได้มีอะไรบ้าง ลองมาดูกันครับ
ช่วยให้คุณได้สูดอากาศและทอดสายตา…
สูดหายใจให้ลึกแล้วผ่อนออกอย่างช้าๆ คุณจะรู้สึกว่าภาระหนักอึ้งเบาลงบ้างไม่มากก็น้อย และเมื่อมันเกิดขึ้นพร้อมกับตอนที่คุณกำลังทอดสายตามองผืนทะเล ภูเขา น้ำตก แม่น้ำคดเคี้ยว มองผู้คนรอบกายกำลังท่องเที่ยวอย่างมีความสุข คุณย่อมรู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น อะไรที่ตึงเครียดอยู่ก็จะเริ่มผ่อนคลาย อาการปวดหัว ปวดขมับ ปวดสายตา จะหายไป
ช่วยให้คุณได้ความรู้สึกอิสระ…
ออกไปยืนริมหน้าผาแล้วร้องวู้วดังๆ หรือกระโดดน้ำตกดังตูมให้ชุ่มฉ่ำ ไม่งั้นก็ลองสลัดผ้าเปลี่ยนเป็นบิกินี่เดินอาบแดดริมชายหาดโดยไม่ต้องแคร์สายตาใคร หรือแม้กระทั่งโพสต์ท่าบ้าบอในสถานที่ถ่ายภาพสามมิติดูสิ คุณจะสัมผัสได้ถึงการปลดปล่อย ความอิสระ รู้สึกว่าหัวใจเต้นดัง เลือดพุ่งพล่านไหลเวียน และเมื่อนั้นคุณจะสัมผัสได้ว่าชีวิตของคุณนั้นยังมีความหมาย
ช่วยให้คุณได้ลืมบางเรื่องชั่วขณะหนึ่ง…
แน่นอนว่าการเดินทางท่องเที่ยวคือการหาความเพลิดเพลินใส่ตัว ซึ่งความสนุกจากการท่องเที่ยวและการเล็งหามุมถ่ายภาพสวยๆ นี่แหละจะทำให้คุณลืมสิ่งที่กำลังกังวล ลืมเรื่องราวร้ายๆ ที่ต้องเผชิญ ลืมหน้าที่ภาระซึ่งต้องแบกรับ แม้มันอาจจะเป็นเวลาเพียงชั่วครู่ แต่รู้หรือไม่ว่าเวลาดีๆ เพียงน้อยนิดมีคุณค่าและเป็นกำลังใจให้ชีวิตมากขนาดไหน การลืมปัญหาชั่วคราวเพราะกำลังเดินทางเที่ยวดีกว่าการลืมปัญหาชั่วคราวเพราะเมาเหล้ามากมายนัก
ช่วยให้คุณได้เติมรอยยิ้ม…
การท่องเที่ยวคือความสนุก เมื่อสนุกคุณจะยิ้ม หัวเราะ และไม่มีสิ่งใดบนโลกสร้างความชุ่มชื่นฉ่ำใจให้ชีวิตมากเท่ารอยยิ้มของคุณเองอีกแล้ว ยิ่งยิ้มมากเท่าไหร่ ชีวิตก็พลันสุขสดใสมากขึ้นเท่านั้น จำไว้ว่าลำพังแค่รอยยิ้มอาจไม่สามารถแก้ทุกปัญหาก็จริงอยู่ แต่อย่างน้อยมันสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้ทุกชนิด และเมื่อคุณยิ้มย่อมหมายความว่าความหวังต่างๆ ยังไม่หายไป
ช่วยให้คุณได้หลั่งสารเอ็นโดฟินส์…
หากเอาแบบวิทยาศาสตร์คงต้องให้หมอมาอธิบาย แต่ถ้าภาษาชาวบ้านก็แค่ว่าเอ็นโดฟินส์คือสารแห่งความสุข ยามที่เราได้ออกกำลังกาย ทำสิ่งที่ชอบ กินอาหารอร่อย เห็นภาพสวยงาม ความบันเทิงต่างๆ รู้สึกปลอดโปร่ง ร่างกายจะหลั่งเอ็นโดฟินส์ออกมาทำให้เราผ่อนคลายสบายใจ ซึ่งระหว่างการท่องเที่ยวคุณพร้อมจะสร้างสารแห่งความสุขนี้ทุกเมื่ออยู่แล้ว
ช่วยให้คุณได้มองเห็นชีวิตอื่น…
เราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก และไม่ใช่เราคนเดียวหรอกที่มีเรื่องเคร่งเครียดหดหู่ ในการเดินทางคุณจะมีโอกาสพบเห็นผู้คนหลากหลาย ประเด็นไม่ใช่ว่าเราจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนที่ต้องดิ้นรนมากกว่าเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นหรอกนะ แต่มันจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความเป็นจริงแห่งการดำรงชีวิตมากขึ้นต่างหาก ดีหรือร้ายล้วนปะปน จะทุกข์หรือสุขขึ้นอยู่ที่ใจเท่านั้นแหละ
ช่วยให้คุณได้มีเวลาตั้งตัวทบทวนชีวิต…
ถ้าเที่ยวกับเพื่อนฝูงแล้ววุ่นวายไม่สงบสุข ลองเปิดใจเที่ยวคนเดียวดูบ้างสิ เมื่อไม่มีใครมารบกวน คุณจะมีเวลาให้กับตัวเองมากมาย จงใช้เวลานั้นให้เกิดประโยชน์ ตั้งคำถาม หาคำตอบให้กับสิ่งย่ำแย่ต่างๆ ที่กำลังเผชิญ เมื่อนำความคิดที่เกิดจากการคิดอย่างรอบคอบ มารวมกับสิ่งที่คุณพบเห็นหรือสัมผัสตลอดการเดินทาง บางทีคุณอาจเจอหนทางแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดอย่างไม่คาดไม่ถึงก็ได้
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller