อยากลองเที่ยวคนเดียวดูบ้างแต่ไม่กล้าสักที มีใครประสบปัญหาอย่างนี้ไหมครับ ขอบอกว่าความจริงแล้วการเดินทางท่องเที่ยวลำพังนั้นไม่ยาก ไม่เหงา และไม่อันตรายอย่างที่คิด หนำซ้ำยังกลับเป็นความสนุกสนาน เปิดประสบการณ์ใหม่ แต่มีข้อแม้นิดหน่อยคือต้องเลือกสถานที่และกระทำมันอย่างเหมาะสมกับตัวของคุณ ซึ่งคำว่าเหมาะสมในที่นี้ไม่มีขีดวัดหรอกนะ คุณต้องพิจารณาด้วยตัวเอง
ผมมี 7 ขั้นตอนเตรียมความพร้อมก่อนจะออกเดินทางเที่ยวคนเดียวมาฝากกัน ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก่ารุ่นเก๋าล้วนต้องใช้แนวทางนี้ทั้งสิ้น สำคัญที่สุดคือต้องเน้นย้ำว่าการเดินทางคนเดียวก็เพื่อสนองความสุขของเราเพียงคนเดียว ฉะนั้นเราไม่ต้องคิดตามใคร ไม่ต้องตามเทรนด์ใคร ไม่ต้องตามกระแสใดๆ ไม่ต้องสนใจใครอื่น ตามใจตามชอบของตัวเองนั่นแหละคือประเด็น
1 รู้จักสถานที่ที่จะไป
สำคัญที่สุดก่อนเดินทางคือต้องรู้จักสถานที่จะไป ภูมิประเทศ สภาพอากาศ ท้องถิ่นแถวนั้นเป็นแบบไหน เช่นตัวเมืองประจวบก็มีทะเลชายหาดทอดยาว แต่มันไม่ใช่หาดพักผ่อนตากอากาศเหมือนหัวหิน หากคุณไปน้ำตกเอราวัณต้องรู้ว่าที่นั่นคืออุทยานแห่งชาติ การค้างแรมต้องจองบ้านพักอุทยานฯ หรือลานกางเต็นท์ ขุนเขาอินทนนท์รถขึ้นถึง แต่ขุนเขาภูกระดึงต้องเดินเท้าขึ้น แม้กระทั่งหลายเกาะกลางทะเลยังไม่เหมือนกัน เกาะกูดเงียบสงบ เสม็ดครื้นเครง สมุยคือเมืองใหญ่ การรู้จักสถานที่จึงเป็นเรื่องเบสิกซึ่งสำคัญมาก
2 เลือกจุดหมายให้เหมาะสม
เมื่อทำความรู้จักกับสถานที่ต่างๆ ต่อมาต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเรา อยากเที่ยวแบบไหน ร่างกายไหวหรือเปล่า สังขารไม่ให้ไม่ต้องดันทุรังขึ้นเขาช้างเผือกหรือภูสอยดาวหรอก เพราะมีภูเขาอีกเยอะที่รถยนต์ขึ้นถึง อยากพักผ่อนทะเลสงบๆ ต้องเลือกหาดคนน้อยเกาะไม่พลุกพล่าน ไม่ใช่พักหาดทรายแก้ว เกาะเสม็ด หรือหาดเฉวง เกาะสมุย ถ้าเป็นคนชอบกินจุบจิบ ชิมร้านอร่อยแต่ดันเที่ยวอุทยานฯ หาของกินยากอันนั้นย่อมไม่เหมาะ จำไว้ว่าไม่จำเป็นต้องเดินตามแบบใคร การเที่ยวเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราทำให้มีความสุขมากกว่า
3 ศึกษาวิธีเดินทาง
คุณมีรถหรือเปล่า ขับรถแข็งหรือไม่ เป็นมือใหม่หัดขับดันขึ้นภูทับเบิกหรือดอยอ่างขางเท่ากับเอาชีวิตแขวนบนเส้นด้าย กรณีเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะล่ะ รถไฟ รถทัวร์ เครื่องบิน แบบไหนสะดวกกับคุณ อย่าลืมศึกษาให้พร้อมว่าต้องลงที่ไหน ต่อรถอีกกี่ทอดจึงถึงที่หมาย ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวคุณต้องหาข้อมูลให้ละเอียดพอสมควร และในที่สุดหากปลายทางยากลำบากเกินไปและดูท่าคงไม่เหมาะกับคุณ คงต้องขอให้ย้อนกลับไปทำข้อที่สองใหม่
4 ดูที่พักให้ดี
ที่พักไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับคนบางกลุ่มแต่กับบางกลุ่มก็ใช่ เดี๋ยวการจองออนไลน์ได้รับความนิยม ปัญหาคือคุณจะไม่เคยเห็นสถานที่จริง และในเว็บไซต์ทุกอย่างย่อมดูดีมีชาติตระกูล ดังนั้นต้องเช็คให้รอบคอบ ไกลถนนหรือเปล่า โดดเดี่ยวหรือไม่ ห้องพักเดี่ยวแน่นะ ไม่ใช่ห้องดอมพักรวม ห้องน้ำรวม ไกลจากที่ที่คุณอยากเที่ยวขนาดไหน เช่นอยากเดินถนนคนเดินเชียงคานดันคลิกจองที่พักอยู่นอกตัวเมืองเสียอย่างนั้น เรื่องแบบนี้ต้องยอมเสียเวลาทำการบ้านสักหน่อย และอีกประเด็นคือถ้าไม่จองห้องพักก่อน แถวนั้นมีมากพอให้เราวอล์คอินหรือเปล่า หยุดเสาร์-อาทิตย์เสี่ยงเต็มไหม
5 รู้จักใช้ Google Map
โลกหมุนไกลเราต้องก้าวให้ทันโลก บอกเลยว่าเดี๋ยวนี้เราเข้าข่ายหลงทางลำบากมากเมื่อมีแผนที่สุดชาญฉลาดให้ใช้กันง่ายดายแทบทุกสถานที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต อย่างน้อยมันจะทำให้รู้ว่าเราอยู่จุดไหนของโลกใบนี้ สำหรับนักเดินทาง พวกมันเปรียบเหมือนแอพพลิเคชั่นฟ้าประทานที่ช่วยแก้ปัญหาการหลงทาง รวมทั้งใช้วางแผนท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ใช้ไม่ยากหรอก ศึกษาสักหน่อยจะช่วยให้คุณวางแผนคำนวณเวลาและระยะทางได้สบายเลยล่ะ
6 แผ่นกระดาษมีความหมาย
แม้อะไรมันจะง่ายดายในโลกดิจิตอล แต่ทันทีที่แบตโทรศัพท์คุณหมดหรือพลาดท่าทำมันหล่นน้ำก็ไม่ต่างจากคำว่าบรรลัย ดังนั้นควรใช้วิธีรุ่นเก๋าป้องกันกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน จดเบอร์โทรศัพท์สำคัญทั้งของญาติมิตร เพื่อนฝูง โรงแรม พกใส่กระเป๋า เบอร์โทรของหน่วยงานให้ข้อมูลการท่องเที่ยวอย่าง ททท.สำนักงานประจำจังหวัดที่จะไป อุทยานแห่งชาติ สถานีตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ก็อาจมีประโยชน์ไม่น้อย ส่วนแผนที่นอกจากของ Google ควรมีแบบแผ่นพับติดตัวสักแผ่น
7 ทิ้งความกังวล
เอาล่ะ เข้าใจว่าบางคนเมื่ออยู่คนเดียวคุณอาจรู้สึกเหงา กลัว วิตก แต่ต้องทำความเข้าใจว่าคุณไม่ได้กำลังไปสนามรบหรือบุกดงโจร คุณกำลังท่องเที่ยว ระมัดระวังในสิ่งที่จำเป็นเช่นเลี่ยงสถานที่เปลี่ยวยามวิกาล ขึ้นรถลงเรือมองดูรอบข้าง ผู้คนแถวนั้นเป็นอย่างไร ใครจับตามองทรัพย์สินเราอยู่หรือเปล่า สังเกตสักนิดแบบพองาม ไม่ใช่ระแวงทุกนาที ที่สำคัญแม้จะวางแผนมาดีมากแต่ยังอาจมีเรื่องผิดพลาด อย่าหงุดหงิดกับมัน คิดเสียว่าคือสีสันและประสบการณ์ นั่นแหละจะทำให้การเดินทางลำพังของคุณเป็นทริปพิเศษจริงๆ
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller