
การเดินทางให้อะไรกับผม คำตอบอยู่ที่นี่ครับ
ผมไม่สนใจเรื่องท่องเที่ยวนักหรอก ผมชอบสัมผัสรสชาติการเดินทางมากกว่า
หลายคนถาม ท่องเที่ยวกับเดินทางต่างกันอย่างไร
สำหรับผม ท่องเที่ยว = ไปสนุก ไปพักผ่อน
สำหรับผม เดินทาง = ไปเห็นสิ่งอื่นๆ ไปเรียนรู้
แล้วเรียนรู้อะไรจากการเดินทาง
ผมเรียนรู้ตัวเอง
เรียนรู้ที่จะทำความเข้าใจกับชีวิตและสังคม
เรียนรู้ความแตกต่างของผู้คน ความคิด ความต้องการ
และเรียนรู้ว่าแท้จริงแล้วโลกใบนี้มีเหลี่ยมมุมนับร้อยนับพัน
ผมเพียงแค่มองเห็นจากมุมเดียว
ความคิดความเชื่อของผมจึงไม่ใช่ศูนย์กลางของทุกสิ่ง
ผมเริ่มยอมรับ เข้าใจ ปล่อยวาง… และยิ้ม
การเดินทาง
นำพาผมมาไกลเกินกว่าที่ตั้งใจในตอนแรกจริงๆ ครับ
“เราไม่สามารถบังคับให้ในหยุดตก แต่เราสามารถเข้าใจยอมรับฝนที่ตกลงมา”
ฝนตก อุปสรรคเข้ามา เราหยุดมันไม่ได้หรอกครับ แต่ถ้าเราเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นบ้าง ก็จะพร้อมอดทน เติมพลังไว้ต่อสู้กับมันได้
“บางความฝันไม่ได้มีไว้ให้ครอบครอง มันมีไว้ให้ยึดมั่น เป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิต”
ฝันให้ไกล ฝันตามอย่างที่อยากฝัน ให้เดินไปไม่ถึงก็ไม่เป็นไร เพราะบางทีความฝันก็มีไว้สร้างความกระชุ่มกระชวยให้หัวใจ ให้ชีวิตมีเป้าหมาย ถึงในโลกความจริงมันอาจไม่มีทางเกิดขึ้นก็ตาม
“อดีตอันเจ็บช้ำคือสิ่งที่เราควรจดจำ เพื่อเป็นบทเรียนไม่ให้ทำซ้ำในอนาคต”
อดีตแย่ๆ อย่าลืมมันเลย ตรงกันข้ามเราควรจดจำมันต่างหาก เคยผิดพลาดอย่างไร เคยต้องเสียใจอย่างไร เราจะต้องทำอย่างไรไม่ให้มันเกิดซ้ำอีก
“ถนนสู่จุดหมายมีหลายทาง เราชอบทางไหนก็ไปทางนั้น ไม่จำเป็นต้องตามคนอื่นเขา”
ทำในแบบที่ตัวเองต้องการและมีความสุขกับมัน คนอื่นทำแบบไหนก็เรื่องของเขา บ้างอยากไปช้า บ้างอยากไปเร็ว มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว สนใจตัวเราเองก็พอ
“อย่าเดินทางเพื่อลืมความเจ็บปวด แต่ควรเดินทางเพื่อจดจำความงดงามของชีวิต”
ตอนเที่ยวสนุกก็ลืม พอเที่ยวเสร็จแล้วอะไรร้ายๆ ก็กลับมาวนในสมองอยู่ดี การเดินทางเพื่อลืมจึงเปล่าประโยชน์ ดังนั้นควรเดินทางเพื่อค้นหาว่ายังมีเรื่องดีๆ มีสิ่งสวยงามในชีวิตอีกมากมายต่างหาก นั่นจึงจะช่วยให้คุณผ่านเรื่องแย่ๆ ไปได้
“ชีวิตคนเราไม่มีทางเหมือนกัน อย่าเอาความฝันของใครมาเทียบกันให้เสียเวลา”
ฝันใครฝันมัน ร้อยคนร้อยฝัน บ้างอยากรวย บ้างอยากดัง บ้างแค่อยากอยู่เงียบๆ แล้วเราจะเอาตัวเราไปเทียบกับคนอื่นทำไม และอย่าได้ดูหมิ่นความฝันของตัวเองเด็ดขาด
“สมการชีวิตแก้ง่ายๆ ใส่รอยยิ้มเข้าไปตรงไหนก็ได้ ผลลัพธ์จะกลายเป็นความเข้าใจ”
ยิ้มเข้าไว้โลกสดใส หากยิ้มออกแสดงว่าชีวิตยังมีคุณค่า และรอยยิ้มนี่แหละจะทำให้เราเข้าใจถึงสัจธรรมชีวิต มีสุขมีทุกข์ปะปน มีร้ายมาบ้างเดี๋ยวมันก็ต้องดีบ้างเอง
“การเดินทางไม่อาจช่วยให้เราเปลี่ยนโลกทั้งใบ แต่มันช่วยให้เราเปลี่ยนโลกของตัวเอง”
เคยรู้สึกไหมครับ สังคมนี้มันควรจะต้อง… แบบนี้… แบบนั้น… แบบโน้น แถมเรามันก็แค่คนเล็กๆ ที่ไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ แต่จริงๆ เราเปลี่ยนได้นะ เปลี่ยนตัวเองให้เข้าใจเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ความสมบูรณ์แบบ ความได้ดั่งใจทุกอย่างมันไม่มีอยู่จริงหรอก เชื่อผมเถอะ การเดินทางได้เห็นอะไรมากๆ จะทำให้โลกของเราที่เคยแคบกว้างขึ้น และยอมรับอะไรได้มากขึ้น
“ไม่มียอดเขาลูกไหนมีหมอกปกคลุมตลอดไป ไม่มีความฝันใดมีหมอกปกคลุมตลอดกาล”
ท้องฟ้ายังมีเปิดๆ เปิดๆ อุปสรรคชีวิตที่เข้ามามันคงไม่ได้อยู่ตลอดไป ใจเย็น อดทน เฝ้ารอ ถึงเวลาเมฆหมอกเริ่มคลายเมื่อไหร่ พยายามฉกฉวยโอกาสทำให้สำเร็จก็แล้วกัน แล้วถ้าหากพลาดล่ะ ก็อดทนรอต่อไปสิ โอกาสหน้ามันต้องมีแหละน่า
“คนเดียวที่จะขโมยความสุขไปจากเราได้ คือตัวของเราเอง”
สุข ทุกข์ อยู่ที่ใจของเราไม่ใช่ของใคร ยิ้ม มองโลกในแง่ดี มองชีวิตแง่บวก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็จะรู้สึกดี และถ้าเกิดรู้สึกไม่ดี คนเดียวที่จะทำให้กลับมารู้สึกดีได้ก็ไม่พ้นตัวเราเอง
“จะร้องไห้สักกี่ครั้ง ก็สามารถลบให้หายได้ด้วยหนึ่งรอยยิ้ม”
ร้องไห้ให้พอ เรื่องทุกข์เรื่องช้ำ ร้องให้พอ หนำใจแล้วก็กลับมายิ้มสักที แค่รอยยิ้มเล็กๆ สามารถเยียวยาหัวใจได้แบบไร้ขอบเขต มันทำให้รู้สึกดีอย่างคิดไม่ถึงนะ
“หนึ่งชีวิตอาจไม่ยาวนานพอให้เราเรียนรู้ทุกสิ่งบนโลก แต่หนึ่งชีวิตมากเกินพอให้เรียนรู้ใจของตัวเอง”
โลกมันกว้าง ผู้คนพันๆ ล้าน เราไม่สามารถเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้หรอก แต่มันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องเรียนรู้สิ่งอื่นๆ ให้หมด เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคือการเรียนรู้ตัวเอง ชอบอะไร มีความสุขกับอะไร เกิดมาเพื่ออะไร ในหนึ่งชีวิตเรามีเวลามากพอที่จะทำความรู้จักกับตัวเองครับ และเมื่อรู้แล้ว ก็ทำในสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรามีคุณค่าซะ
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller