สวนผึ้ง อำเภอปลายชายแดนจังหวัดราชบุรี หลายปีมานี้โด่งดังติดหูด้านการท่องเที่ยว เพราะเป็นเมืองห้อมล้อมด้วยป่าเขา อากาศบริสุทธิ์ เย็นสบาย ว่ากันว่าหน้าหนาวยะเยือกไม่แพ้ทางภาคเหนือเลยแหละ เมื่อประกอบกับการอยู่ใกล้กรุงเทพ เดินทางแค่ราวสามชั่วโมง ทำให้แปรสภาพเป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศยอดฮิตของคนกรุง
อันที่จริงสำหรับคนรักธรรมชาติ การเติบโตของสวนผึ้งคงดูไม่น่ามองสักเท่าไหร่ แต่ในแง่มุมการท่องเที่ยวต้องยอมรับว่าสวนผึ้งกลายเป็นเมืองเที่ยวง่าย เที่ยวได้หลายรอบ เข้าถึงธรรมชาติแบบไม่หนักมาก มีที่เที่ยวหลากหลายพอสมควร เหมาะกับการใช้เวลาพักผ่อนวันหยุดสั้นๆ อย่างมาก
ช่วงนี้หน้าฝน กรีนซีซั่น ขับรถไปสวนผึ้งเราจะมองเห็นความเขียวชอุ่มตลอดเส้นทาง ไอหมอกลอยคลอเคลียแนวภูเขา เป็นช่วงสดชื่นฉ่ำใจ น่าเที่ยวไม่แพ้หน้าหนาว แถมข้อดีคือค่อนข้างโล่งสบายนักท่องเที่ยวน้อย เอาล่ะ… ลองมาดูกันครับว่าหากคุณนึกอยากเที่ยวสวนผึ้งสักครั้ง จะไปทำอะไรกันดี
ไปเลี้ยงแกะ
แกะไม่ได้อยู่ที่สวนผึ้งมาแต่เดิม และไม่ได้ว่ายน้ำข้ามมาจากทวีปออสเตรเลีย แต่คนหัวใสนำพวกมันมาเลี้ยงเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจนสร้างชื่อให้แกะกลายเป็นสัญลักษณ์ของสวนผึ้งไปแล้ว ปัจจุบันมีที่เที่ยวแบบฟาร์มแกะให้เราสนุกกับการถ่ายรูปและป้อนอาหารพวกมันมากกว่าสิบแห่ง จุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป ที่ยังเป็นออริจินัลโด่งดังเหนือใครคือ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม ถึงกับทำให้หลายคนเข้าใจผิดมาแล้วว่าที่นี่คือทั้งหมดของสวนผึ้ง!
ไปถ่ายรูป
เตรียมแบตเตอรี่ให้พร้อม เม็มโมรี่การ์ดอีกหลายกิ๊ก กิจกรรมยอมฮิตเวลามาเที่ยวสวนผึ้งคือการถ่ายรูปนี่แหละ ใครบ้าเซลฟี่รับประกันว่าได้เซลฟี่จนหน้าบาน ที่นี่มีสถานที่เที่ยวสวยเก๋เพียบ สร้างใหม่มาเรื่อยจนแทบจำลองหลากหลายมุมโลกไว้รวมกัน มีทั้งลักษณะของสถานที่ท่องเที่ยวแบบเปิด หรือเป็นที่เที่ยวเน้นๆ ให้คนทั่วไปเข้าชม บางที่ก็เก็บค่าเข้า บางที่ก็เข้าฟรี กับเป็นรีสอร์ทซึ่งจำกัดเฉพาะลูกค้าของเขาเท่านั้น
ไปกินกาแฟ
เดี๋ยวนี้เมืองท่องเที่ยวที่ไหนไม่มีร้านกาแฟคงผิดแผกอยู่สักหน่อย ถ้าชอบนั่งร้านกาแฟเพราะรสชาติขอแนะนำ “กาแฟคนรักษ์สวน” สาขาดั้งเดิมอยู่ที่วัดหนองหอย ใกล้เมืองราชบุรี ก่อนมาเปิดอีกสาขาที่สวนผึ้ง กับ “อามันเต้ คอฟฟี่” มีสองสาขาอยู่ที่สวนผึ้งทั้งคู่ สาขาที่เปิดทุกวันคือตรงร้านครัวม่อนไข่ อีกสาขาเปิดเฉพาะวันหยุดอยู่เยื้องกันนิดเดียว แต่ถ้าคุณชอบร้านน่ารักที่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ หรือแนววินเทจ ที่นี่มีให้เลือกเพียบจนสาธยายไม่หมด
ไปนอนรีสอร์ทเก๋ๆ
สวนผึ้งเป็นอำเภอซึ่งมีรีสอร์ทตากอากาศมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยเชียวล่ะ ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง เพราะกลุ่มเป้าหมายคือคนเมืองซึ่งต้องการพักผ่อนและยังเป็นกลุ่มที่พอมีสตางค์ขับรถส่วนตัวมาเที่ยว รีสอร์ทฮิตทำเลสวยจึงมักมีราคาเริ่มต้นแตะหลัก 2,000++ เลยทีเดียว แต่หากยอมลดระดับความงามลงสักนิด ที่พักราคา 1,000++ ยังพอหาได้ไม่ยาก จะพักแพงแต่สวยหรือถูกลงสวยน้อยลง ก็เลือกตามกำลังจ่ายแล้วกัน
ไปกินของอร่อย
ร้านอาหารในสวนผึ้งมีพอสมควร รีวิวตามเว็บไซต์แนะนำมักเป็นร้านอาหารไทย อิ่มเพลิน ครัวเรือนกาแล ครัวตะนาวศรี ครัวม่อนไข่ มุมโปรด เป็นต้น ส่วนอาหารอีสานหาทานได้ไม่ยาก ติดกับซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม มีไก่หมักอบเบียร์เนื้อนุ่ม กินแล้วเมาหรือเปล่าต้องลองดู (ฮา…) ขณะที่ใครชอบสเต็ก อาหารยุโรปก็มีอยู่ตามรีสอร์ทใหญ่ๆ แต่ของกินฮิตที่สุดเห็นจะเป็นก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ ร้านชื่อเก๋ไก๋ว่าสูตรคุณยาย วันเสาร์-อาทิตย์ คนแน่นขนัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกร้านที่ว่ามาลิ้นใครลิ้นมันครับ ผมไม่ขอฟันธง
ไปดูต้นผึ้ง
ชื่อสวนผึ้งมาจากต้นผึ้ง ไม้ยืนต้นสูงใหญ่มักมีผึ้งหลวงมาอาศัยทำรัง ในเขตชุมชนต้นผึ้งหายไปเกือบหมดแต่ยังพอหาชมได้อยู่ เห็นชัดเจนมีสามต้น ต้นแรกอยู่ในซอยใกล้พิพิธภัณฑ์ภโวทัยกับวัดสวนผึ้ง เป็นพื้นที่ชาวบ้าน ต้นต่อมาอยู่ริมถนนทางหลวงชนบท รบ.4020 (บ้านบ่อ-ตะโกล่าง) มองจากต้นนี้จะเห็นต้นผึ้งสูงใหญ่อีกต้นอยู่ข้างหลังไม่ไกล นั่นคือต้นที่สามภายในต้นผึ้งฟาร์ม ไปเที่ยวชมได้จากทางเข้าตรงหลัก กม.ที่ 9 ถนนเส้นนี้แหละ แต่ถนนลำบากเล็กน้อย รถเล็กควรเลี่ยง ใช้เดินเท้าจะดีกว่า
ไปกอดภูเขา
สวนผึ้งตั้งอยู่ในแนวเทือกเขาตะนาวศรี พรมแดนไทย-พม่า สถานที่เที่ยวธรรมชาติแบบไฮไลท์จึงเป็นการขึ้นเขา มีสองจุดได้รับความนิยมคือเขากระโจม กับห้วยคอกหมู การพิชิตเขากระโจมขึ้นชื่อเรื่องความลำบาก ต้องใช้ทั้งรถทรงสมรรถนะและฝีมือคนขับชำนาญเส้นทาง (แนะนำให้เหมารถจากกลุ่มรักษ์เขากระโจม) ด้านบนเป็นฐาน ตชด. จุดชมทะเลหมอกยามเช้า พระอาทิตย์ขึ้น ลานกางเต็นท์ ส่วนห้วยคอกหมูเส้นทางไม่ยากเท่า รถกระบะสมบุกสมบันสักหน่อยก็สามารถขึ้นได้แล้ว เป็นฐาน ตชด. และมีสถานที่ให้กางเต็นท์เช่นกัน ยามเช้าสายหมอกเรี่ยทิวเขาที่นี่น่าประทับใจไม่น้อยเชียว
ไปอาบน้ำตก
น้ำตกเที่ยวง่ายและเป็นที่นิยมของสวนผึ้งคือน้ำตกเก้าชั้น ความสวยงามอาจไม่มากแต่เหมาะมาเล่นน้ำพักผ่อน เมื่อก่อนการเดินครบเก้าชั้นใช้เวลาราวสองชั่วโมง แต่ด้วยเส้นทางตอนท้ายอันตรายและไม่ชัดเจน ปัจจุบันจึงปิดทางตั้งแต่ชั้นเจ็ดของเก่าเป็นต้นไป แล้วปรับนับชั้นกันใหม่ให้ยังคงเป็นเก้าชั้นตามชื่อ เดินไม่เกินชั่วโมงก็ถึงแล้ว สำหรับที่เล่นน้ำอีกแห่งในสวนผึ้งคือแก่งส้มแมว ต้นน้ำภาชี เป็นที่ตั้งของสวนป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สายน้ำไหลเย็นน่าสนุกสนานไม่น้อย
ไปแช่น้ำร้อน
อ่านไม่ผิดหรอก สวนผึ้งก็มีบ่อน้ำร้อนนอนแช่ออนเซ็น ถึงจะไม่ใหญ่โตมากแต่เขาจัดทำไว้สะดวกสบายพอสมควร ชื่อ “ธารน้ำร้อนบ่อคลึง” อยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคลซึ่งค้นพบธารน้ำตรงนี้มานานหลายสิบปีแล้ว ก่อนจะจัดสร้างพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนเพื่อสุขภาพ มีบ่อรวมด้านนอก บ่อดิน บ่อด้านใน และบ่อแช่เท้า เลือกใช้บริการกันตามใจ มีค่าบริการไม่แพงมาก
ไปเที่ยวรายทาง
สวนผึ้งเป็นอำเภอชายชอบ การเดินทางจึงต้องผ่านอำเภออื่น ยิ่งหากมาจากกรุงเทพตามถนนพระรามที่ 2 จะพบว่าที่เที่ยวรายทางเพียบ เลี้ยวเข้าตัวเมืองแม่กลอง (ตลาดร่มหุบ) ผ่านอำเภออัมพวา (ตลาดน้ำอัมพวา บางน้อย บางนกแขวก) เข้าราชบุรีที่อำเภอดำเนินสะดวก (ตลาดน้ำดำเนินสะดวก) อำเภอบางแพ (อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม สุนทรีแลนด์แดนตุ๊กตา สวนกล้วยไม้เดอะบลูม) ถึงเมืองราชบุรี (เถ้าฮงไถ่ วัดมหาธาตุ วัดอรัญญิกาวาส) อำเภอจอมบึง (ถ้ำเขาบิน ถ้ำจอมพล) และจึงเข้าสู่อำเภอสวนผึ้ง ระวังแวะเที่ยวมากไปเวลาจะหมดเอาล่ะ
ตะลุยสวนผึ้งด้วยมอเตอร์ไซค์
เมื่อก่อนการจะเที่ยวสวนผึ้งให้สนุกจำเป็นต้องมีรถส่วนตัว เพราะสถานที่แต่ละแห่งไกลกันมาก แถมรถโดยสารก็วิ่งเพียงถนนหลักสายเดียว แต่ถึงตอนนี้มีอีกวิธีทำให้คุณเที่ยวง่ายขึ้นแล้ว นั่นคือการเช่ามอเตอร์ไซค์
สวนผึ้งยังไม่มีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์หรอกครับ จะหาเช่าต้องติดต่อกับทางที่พักเผื่อมีพนักงานหรือคนรู้จักพอให้เช่าได้บ้าง แต่มีร้านเช่ามอเตอร์ไซค์จริงๆ อยู่ที่อำเภอจอมบึง ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ชื่อ My Way Resort (Tel. 08-6170-8824) ราคาเริ่มต้น 400 บาท อยู่ห่างจากตัวอำเภอสวนผึ้งราว 30 กิโลเมตร ถนนโล่งขี่สบายอยู่แล้ว ใครจะใช้บริการติดต่อจองรถล่วงหน้าเพื่อนความชัวร์นะเอ้อ
การเดินทางไปอำเภอจอมบึงก็ง่ายดายแค่ขึ้นรถตู้ กรุงเทพ-จอมบึง หากใครมาจากจังหวัดอื่นให้เดินทางเข้าตัวเมืองราชบุรี แล้วค่อยต่อรถโดยสารต่อมายังจอมบึง เท่านี้ก็สามารถเที่ยวสวนผึ้งได้ทั่วแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller