ทริปเดินทาง : 7-16 พฤศจิกายน 2560
ผมมักบอกใครอยู่เสมอว่าวิธีเที่ยวเชียงใหม่ให้สนุกที่สุดคือเช่ามอเตอร์ไซค์ เพราะไม่มีรถประเภทไหนจะลุยขึ้นเขาลงห้วยได้แบบไม่หวาดหวั่นเท่าเจ้าสองล้ออีกแล้ว (ยกเว้นใครจะมีโฟร์วีลล่ะนะ) ผมเที่ยวเชียงใหม่ด้วยมอเตอร์ไซค์มาตลอด แต่ก็ยังไปได้ซ้ำไม่รู้เบื่อและเที่ยวไม่ทั่วสักที
พฤศจิกายนที่ผ่านมา ลมหนาวเริ่มพัดแผ่ว เลยถือโอกาสแบกเป้ลุยเดี่ยวตะลอนเชี่ยงใหม่ด้วยมอเตอร์ไซค์อีกสักครั้ง ไปแบบไม่ได้วางแผนเยอะ ลุยไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าใช้เวลาเบ็ดเสร็จสิบวัน ระยะทางรวมกันเกือบพันกิโล
เนื่องจากเป็นทริปยาวและรีวิวก็ยาวเหยียด เลยขอแบ่งเป็นสองตอนแล้วกัน
ตอนสอง คลิก >>> https://wp.me/p7ca93-1WF
ทริปนี้เน้นขึ้นทางเหนือโดยเฉพาะ จากอำเภอเมือง ผ่านแม่ริม แม่แตง เชียงดาว ไชยปราการ ฝาง จนเฉียดเข้าอำเภอแม่อายนิดหน่อย เดินทางไปเรื่อยๆ เจออะไรน่าสนใจก็แวะที่นั่น และที่สุดทริปจึงออกมาหน้าตาแบบนี้ครับ
Day 1
เส้นทางวันนี้
* ถนน ทล.107 ช่วง เชียงใหม่ – แม่แตง
* ถนน ทล.1095 แม่แตง – ปาย
* น้ำตกหมอกฟ้า อช.ดอยสุเทพ-ปุย
* กาแฟบ้านแม่มด
* กางเต็นท์ อช.ห้วยน้ำดัง
เริ่มต้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ ที่เราคุ้นปากเรียกว่าอาเขต ขี่ไปเข้า ทล.107 (เชียงใหม่-แม่จัน) ขึ้นเหนือผ่านอำเภอแม่ริม เข้าอำเภอแม่แตง ถึงสี่แยกเลี่ยงเมือง เจอป้ายห้วยน้ำดัง 70 กม. ก็เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด เป็นถนน ทล.1095 พาไปอำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ระหว่างทางผ่าน อช.ห้วยน้ำดัง
Bikky อาเขต
ก่อนจะเดินทางทั้งหลายทั้งปวงต้องเช่ารถเสียก่อน ที่อาเขตมีหลายร้านให้เลือก ร้านประจำของผมคือ Bikky เพราะเป็นร้านดั้งเดิมเมื่อก่อนมีร้านนี้ร้านเดียว ผมเช่ามาเป็นสิบครั้ง รวมเวลาเช่าหลายเดือน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องรถ และตอนคืนรถ ไม่ต้องวางเงินมัดจำด้วยครับ เบอร์โทร และเวลาเปิด-ปิด ดูในป้ายตามภาพเลย
ทริปนี้ผมเลือกเช่า ฮอนด้า เวฟ 125 เที่ยวลุยขึ้นดอยขี่เกียร์ธรรมดาอุ่นใจกว่าเยอะ สภาพรถกลางๆ เครื่องไม่เปรี๊ยะเหมือนรถส่วนตัวแต่ก็ไม่ถึงกับหลวมโครก ค่าเสียหายวันละ 300 บาท คิดเวลาเช่า 24 ชั่วโมง ผมยังไม่มีกำหนดกลับ เลยบอกเช่ายาวไปก่อนเจ็ดวัน ทางร้านแถมฟรีให้หนึ่งวันเป็นแปดวัน
น้ำตกหมอกฟ้า อช.ดอยสุเทพ-ปุย
ได้รถแล้วลุยกันเลย จาก ทล.107 แยกเลี่ยงเมืองแม่แตง เลี้ยวซ้ายเข้า ทล.1095 สักพักเจอป้ายน้ำตกหมอกฟ้า อช.ดอยสุเทพ-ปุย เข้าไปไม่ลึกเท่าไหร่ ถึงลานจอดรถก็เสียค่าธรรมเนียบตามระเบียบ คนไทย 20 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท
น้ำตกสูงสวยใช้ได้ ช่วงนี้น้ำเยอะพอสมควร ฝรั่งมาเที่ยวกันไม่ขาด ทั้งจากทัวร์ และขี่มอเตอร์ไซค์มาเอง
ด้านนี้เป็นบ้านพักและลานกางเต็นท์ บรรยากาศโอเคเลยล่ะ เกือบเผลอใจนอนที่นี่ซะแล้ว
ด้วยความสงสัยว่าจริงๆ พื้นที่ อช.ดอยสุเทพ-ปุย ไม่น่าจะมาไกลถึงแม่แตง เลยคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ความว่าเขตอุทยานฯ บริเวณนี้ไม่ได้ติดกับพื้นที่หลัก คิดง่ายๆ ว่าเหมือนเกาะกลางทะเล เลยถึงบางอ้อมันเป็นฉะนี้นี่เอง
กาแฟบ้านแม่มด
ขี่ต่อเรื่อยๆ ถนนโล่งมาก เพื่อนร่วมทางส่วนใหญ่คือมอเตอร์ไซค์นักท่องเที่ยวที่ไปปาย สักชั่วโมงเจอร้านกาแฟริมทางเก๋ๆ ไม่สะดุดตาได้ยังไงเพราะเอาหุ่นแม่มดมาแต่งร้าน ชื่อร้าน Coffee We / บ้านแม่มด เอสเปรสโซ่เย็นแก้วละ 60 บาท รสชาติโอเค เหมาะเป็นจุดพักรถดีครับ
ถนน ทล.1095
จากนั้นเป็นทางขึ้นเขายาวๆ หลายช่วงดอกบัวตองกำลังบานสวย ถึงกับต้องแตะเบรกเอี๊ยดแล้วแวะถ่ายรูป จุดนี้มีฝรั่งจอดกันเยอะมากเพื่อดูวิวภูเขา ในใจนึกอยากจะบอกเหมือนกันว่ายูรู้หรือเปล่าภูเขาตรงนี้มันก็งั้นๆ หาดูได้ทั่วไป แต่ดอกบัวตองที่พวกยูไม่สนใจกันเลยเนี่ย มันบานแค่ 10-20 วัน เฉพาะช่วงนี้เท่านั้นนะ
อช.ห้วยน้ำดัง
ยิงยาวต่อเข้า อช.ห้วยน้ำดัง เป็นรอยต่อ เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน จริงๆ คือใกล้ตัวอำเภอปายมากกว่าตัวอำเภอแม่แตงด้วยซ้ำ แต่ที่บอกกันว่าห้วยน้ำดังอยู่เชียงใหม่ เพราะที่ทำการฯ เยื้องมาอยู่ฝั่งเชียงใหม่ ที่อยู่เลยเป็นอำเภอแม่แตงนั่นไง
ถึงด่านตรวจทางเข้า จ่ายค่าธรรมเนียม คนไทย 50 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท
เข้ามาสัก 6 กิโลเมตร ถึงจุดชมวิวกิ่วลม เป็นไฮไลท์ของที่นี่ครับ สี่โมงนิดๆ บรรยากาศเย็นสบาย ร้านอาหารสวัสดิการอยู่ด้านล่าง เปิดถึงหกโมงเย็น มาตุนเสบียงไว้ก่อนได้
ลานกางเต็นท์อยู่คนละที่กับกิ่วลม ห่างไปสักครึ่งกิโล ขี่รถไปได้เลย มีหลายโลเกชั่นให้เลือก ถึงแล้วจ่ายค่าธรรมเนียมกางเต็นท์เสียก่อน คนละ 30 บาท แล้วเลือกที่ทางได้ตามใจชอบ
ผมเลือกกางลานใกล้ที่สุดคือจุดชมวิวสองตะวัน ถ้าเรามองไปฝั่งพระอาทิตย์ตกคือแม่ฮ่องสอน ฝั่งพระอาทิตย์ขึ้นคือเชียงใหม่ รวมผมแล้วมีเต็นท์ทั้งหมดสี่หลังสำหรับวันนี้ ช่วงอาทิตย์อัสดงฟ้าเปล่งแสงสวยเชียว
Day 2
เส้นทางวันนี้
* เช้า อช.ห้วยน้ำดัง
* ถนน ทล.1095 ปาย – แม่แตง
* โป่งเดือนป่าแป๋ อช.ห้วยน้ำดัง
* ถนน ชม.3038 แม่แตง – เขื่อนแม่งัด
* กางเต็นท์ เขื่อนแม่งัด อช.ศรีลานนา
ออกจากห้วยน้ำดัง ขี่รถย้อนทางเดิม แวะโป่งเดือดป่าแป๋ บ้านป่าแป๋ ที่เที่ยวอีกแห่งของ อช.ห้วยน้ำดัง ก่อนจะยิงยาวกลับตัวอำเภอแม่แตง เชื่อมต่อทางหลวงชนบท ชม.3038 มุ่งสู่เขื่อนแม่งัด อช.ศรีลานนา เพื่อกางเต็นท์นอน
อช.ห้วยน้ำดัง
มานอนห้วยน้ำดัง ใครก็ต้องอยากเห็นทะเลหมอก แต่ความหวังผมหมดลงตั้งแต่สองสามทุ่มแล้วล่ะ เพราะลมแรงหมอกฟุ้งมาเต็มๆ พอตื่นหกโมงเช้าก็ไม่มีอะไรผิดคาด ขาวโพลนทุกตารางเมตร แต่ยามเช้าสีขาวแบบนี้สดชื่นดีเหมือนกันนะ น่าแปลกเพราะถึงจะไม่เห็นทะเลหมอกแต่ผมไม่รู้สึกเสียดายเลย
โป่งเดือดป่าแป๋ อช.ห้วยน้ำดัง
คำว่าโป่งเดือดนี่เดือดสมชื่อ อุทยานฯ จัดสถานที่ไว้ค่อนข้างดี มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ บ้านพัก ลานกางเต็นท์ และแน่นอนว่ากิจกรรมเด่นย่อมเป็นการต้มไข่ ด้วยอุณหภูมิสูงปรี๊ด ไข่ต้มยางมะตูมแค่ห้านาทีก็กินได้แล้ว
ค่าธรรมเนียมเข้าชมที่นี่เท่ากับที่ห้วยน้ำดัง แต่ผมไม่เสียครับเพราะเมื่อวานไปถึงห้วยน้ำดังใกล้เย็น บัตรค่าเข้าปั๊มวันที่ข้ามวันมาใช้วันนี้ได้ด้วย
โป่งเดือดป่าแป๋มีบ่ออาบน้ำร้อนและห้องอาบน้ำร้อน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เริ่มต้นที่บ่อรวม 20 บาท บ่อเล็กและห้องแยก 50 บาท ผมถือโอกาสพักแช่เท้ากับน้ำอุ่นๆ สักนิด ผ่อนคลายดีทีเดียว
เขื่อนแม่งัด อช.ศรีลานนา
ออกจากโป่งเดือดตอนบ่ายดิ่งยาวมาถึงเขื่อนแม่งัด ที่ทำการ อช.ศรีลานนา ราวสี่โมงนิดๆ ควักกระเป๋าจ่ายค่าธรรมเนียม คนไทย 20 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท ส่วนค่าพื้นที่กางเต็นท์ปกติไม่ค่อยมีคนกาง เลยหยวนๆ ไม่ต้องเสีย
เพราะเป็นเขื่อน การท่องเที่ยวไฮไลท์จึงต้องนั่งเรือออกไปพักตามแพต่างๆ (เอกชนรับสัมปทาน) หากเป็นพื้นที่ใกล้ที่ทำการฯ มีแค่สันเขื่อนกับร้านอาหารสวัสดิการริมน้ำปิดหกโมงเย็น
ที่พักอุทยานฯ เป็นแพพักและลานกางเต็นท์ ลานหลักอยู่ติดกับอาคารที่ทำการฯ แต่บรรยากาศงั้นๆ เลยหนีมากางลานกว้างริมน้ำดีกว่า ไปใช้ห้องน้ำและชาร์ตไฟได้ที่ร้านอาหารสวัสดิการ ข้อเสียคือพื้นเป็นหินปักสมอไม่ได้ แต่ช่วงนี้ไม่มีลมจึงไม่เป็นปัญหาอะไร
Day 3
เส้นทางวันนี้
* เช้า เขื่อนแม่งัด อช.ศรีลานนา
* ทุ่งนาบ้านช่อแล ถนน ชม.3038
* ถนน ชม.4046 เขื่อนแม่งัด – บ้านป่าเลา
* น้ำตกบัวตอง – น้ำพุเจ็ดสี – ถ้ำบัวตอง
* ถนน ทล.107 ช่วง แม่แตง – เชียงดาว
* ถนน ชม.3024 ดอยหลวงเชียวดาว
* กางเต็นท์ บ้านนาเลาใหม่ ดอยหลวงเชียงดาว
เริ่มต้นวันที่เขื่อนแม่งัด ย้อนกลับมาทางถนน ชม.3038 เก็บภาพรายทาง จากนั้นไปน้ำตกบัวตอง – น้ำพุเจ็ดสี พอคล้อยบ่ายค่อยโบกมือลาอำเภอแม่แตง ย้อนเส้นทางเดิมทั้งหมดกลับมา ทล.107 ขี่ขึ้นไปอำเภอเชียงดาว เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงชนบท ชม.3024 หาที่นอนที่บ้านนาเลาใหม่ ดอยหลวงเชียงดาว
เขื่อนแม่งัด อช.ศรีลานนา
ยามเช้าที่เขื่อนแม่งัด ฟ้าไม่เปิด แต่บรรยากาศสงบสบายอย่าบอกใคร ได้เห็นวิถีของผู้คนและชาวเรือที่ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องแข่งขันกับใครอื่นเพียงแค่แข่งกับความขยันขันแข็งของตัวเองก็พอ เป็นเช้าเงียบๆ ที่มีความสุขดี
ถนน ชม.4046
เมื่อวานขาเข้าเขื่อนเห็นว่ามีทุ่งนาสวยๆ อยู่ริม ถนน ชม.4046 ตำบลช่อแล นึกแปลกใจทำไมยังไม่เกี่ยวกันอีก เลยถามชาวบ้านได้ความว่าที่นี่ปลูกข้าวปีละสองรอบ รอบนาปีจะเริ่มเกี่ยวกลางพฤศจิกายน จากนั้นพอต้นปีก็จะเริ่มทำนาปรัง อยู่ใกล้เขื่อนขนาดนี้ชลประทานย่อมดีเป็นธรรมดา
ที่บ้านช่อแล เห็นที่พักสบายๆ แห่งหนึ่งชื่อไร่สันติธรรม โฮมสเตย์ ไม่ใช่โฮมสเตย์บ้านไม้แนวที่กำลังฮิตหรอกนะ แต่บรรยากาศดีอยู่กลางทุ่งนา บ้านพักคืนละ 600 บาท โทร. 095 095 0805 และไม่ไกลกัน มีร้านอาหาร-กาแฟ ระเบียงนที วิวดีมาก อาหารจานเดียว 70 บาท เอสเปรสโซ่เย็น 60 บาท
น้ำตกบัวตอง – น้ำพุเจ็ดสี
กินข้าวอิ่มท้องดูทุ่งนาอิ่มใจแล้วไปต่อที่ น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี เส้นทางไม่ยาก ระหว่างวิ่งเข้าเขื่อนแม่งัดจะเจอสามแยกครัวสายนทีก็เลี้ยวขวาไปเลย เป็นถนน ชม.4046 มีป้ายบอกไปน้ำตกตลอดทาง
น้ำตกบัวตองเป็นน้ำตกเล็กๆ แต่ไม่เล็กด้วยนักท่องเที่ยว ฝรั่งเยอะมาก จุดเด่นคือเป็นน้ำตกหินปูนสีขาว ต้นน้ำมาจากน้ำผุดคือน้ำพุเจ็ดสี และเพราะเป็นหินปูนทำให้ไม่ลื่นมาก มีเชือกผูกให้เราปีนป่ายขึ้นไปตามน้ำตกด้วย
น้ำตกมีสามชั้นเดินลงเรื่อยๆ สวยสุดคือชั้นล่าง เห็นแล้วต้องร้องว้าว
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสถานะที่นี่นิดหน่อย ป้ายข้างหน้าคือวนอุทยานน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี ตอนนี้เลยยังไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม แต่ถ้าใครลองเข้าเว็บไซต์สำนักอุทยานแห่งชาติจะเห็นขึ้นว่า อช.น้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี (เตรียมการ) คุยกับเจ้าหน้าที่ได้ความว่าอย่างช้าไม่น่าจะเกินสองปีคงประกาศยกระดับเป็นอุทยานฯ อย่างเป็นทางการ
ตรงนี้คือน้ำพุเจ็ดสี ว่ากันว่าวันแดดดีๆ สะท้อนได้มุมจะเห็นน้ำเป็นรุ้งเจ็ดสี เพราะต้นน้ำเป็นแบบนี้น้ำตกบัวตองถึงได้ใสแจ๋วยังไงล่ะ
ถ้ำบัวตอง
ออกจากน้ำตกแล้วแวะเที่ยววัดถ้ำบัวตอง ที่อยู่ใกล้กันอีกแป๊บ ตำนานเรื่องราวเชื่อมกันของ น้ำพุเจ็ดสี น้ำตกบัวตอง และถ้ำบัวตอง เป็นอย่างไรไม่ขอเล่าครับ ให้ไปหากันเอาเอง (หาด้วยการไปเที่ยวนะไม่ใช่หาในกูเกิ้ล ฮา…)
ถนน ชม.3024
ออกจากถ้ำบัวตองเกือบสี่โมงพร้อมสายฝน บึ่งเส้นเดิมย้อนกลับเข้าอำเภอแม่แตง ต่อเข้า ทล.107 ขึ้นไปอำเภอเชียงดาว เลี้ยวซ้ายเข้าถนน ชม.3024 ซึ่งเป็นเส้นที่พาเราเลาะไปตามดอยหลวงเชียงดาว จุดหมายคือบ้านนาเลาใหม่ มีที่พักโฮมสเตย์นอนชมดอยหลวงอยู่ตรงนั้น พูดง่ายๆ ว่าบ้านระเบียงดาวอยู่นั่นคงเข้าใจทันที
ลีซอ วิวสวย บ้านนาเลาใหม่
ผมเคยเดินป่าขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาวมาแล้ว แต่ข้างล่างเป็นอย่างไรไม่รู้เหมือนกัน ขี่มาถึงหน่วยฯ สบห้วยผาตั้ง-นาเลา ของเขตรักษาพันธุ์ฯ เชียงดาว ก็ลงลดไปเซ็นชื่อเข้าพื้นที่นิดหน่อย
ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ จนถึงปากทางเข้าบ้านนาเลาใหม่ก็ต้องเบรกตัวโก่ง เจอที่พักริมทางวิวสวยมาก หมอกกำลังคลอเคลียกับดอยหลวงเชียวดาว ชื่อว่า ลีซอ วิวสวย ลงไปสอบถามที่กางเต็นท์ เขาบอกว่าปกติไม่ให้กางเองหรอกเพราะมีเต็นท์ของที่พักบริการ แต่วันธรรมดาคนน้อยก็ตามสบายแล้วกัน คิด 300 บาท รวมอาหารเย็นและเช้า เจอวิวแบบนี้ผมไม่เสียเวลาต่อรองเลยครับ
และบอกเลยว่าน้ำพริกลีซอ (หรือลีซู) อร่อยมากๆ
Day 4
เส้นทางวันนี้
* เช้า ลีซอ วิวสวย
* บ้านนาเลาใหม่
* ถนน ชม.3024 ขาออก
* วัดถ้ำเชียงดาว
* ถนน ทล.107 ช่วง เชียงดาว-ไชยปราการ
* โครงการหลวงห้วยลึก
* กางเต็นท์ อช.ดอยเวียงผา อ.ไชยปราการ
จากบ้านนาเลาใหม่ ย้อนทางเดิมเพื่อออก ทล.107 ระหว่างทางแวะเที่ยววัดถ้ำเชียงดาว พอถึงถนนใหญ่ค่อยต่อขึ้นเหนือต่อไป ผ่านโครงการหลวงห้วยลึก จนเข้าเขตอำเภอไชยปราการ เลี้ยวรถเข้าไปกางเต็นท์นอนที่ อช.ดอยเวียงผา จากปากทางเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร
ลีซอ วิวสวย บ้านนาเลาใหม่
คงเพราะพระพายกับพระพิรุณทรงเห็นใจ ตื่นเช้าวันนี้ดอยหลวงเชียงดาวว่างเปล่า ไม่มีแสง ไม่มีหมอก ทุกอย่างนิ่งสนิท ก่อนที่สักเจ็ดโมงสายลมจะหอบเอาฝนมาโครมใหญ่ และหลังจากนั้นทุกอย่างก็เหนือคำบรรยาย ผมรักดอยหลวงเชียงดาว รักทั้งตอนอยู่บนนั้น และตอนอยู่ข้างล่าง… ตรงนี้
ส่วนตัวเห็นว่า ลีซอ วิวสวย ทำเลดีกว่าโฮมสเตย์ที่อื่นเพราะไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน อยู่หน้าปากทางเข้า ทำให้ไม่วุ่นวาย เงียบสงบ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ มาบดบังให้รำคาญสายตา บ้านพัก 600 บาท / คน
เต็นท์ 400 บาท / คน นำเต็นท์มาเอง 300 บาท / คน (ให้กางเฉพาะวันที่แขกเข้าพักน้อยและไม่ให้กางกันเป็นกลุ่มใหญ่) ราคารวมอาหารสองมื้อ เย็น/เช้า ติดต่อ 080 856 9495
บ้านนาเลาใหม่
สายๆ ขี่รถเข้าไปในบ้านนาเลาใหม่สักหน่อย เห็นแล้วตกใจเหมือนกัน ค่อนข้างจะรู้สึกคึกคักและแออัดเล็กน้อย ยังดีที่ความสวยของดอยหลวงเชียงดาวทำให้เรื่องเหล่านั้นโดนมองข้ามไป ส่วนตัวผมว่าในหมู่บ้านจะพักที่ไหนก็ไม่ต่างกันมากครับ ราคาใกล้เคียงกันทั้งหมด
ถ้ำเชียงดาว
ขาออกกลับมาถนนใหญ่ต้องแวะวัดถ้ำเชียงดาว ในถ้ำสวยและใหญ่โตมาก แบ่งเป็นสองส่วนคือส่วนที่มีไฟฟ้าส่องสว่างเดินเที่ยวเองได้ กับส่วนที่ไม่มีไฟฟ้าต้องจ้างไกด์นำเที่ยว มาไกลขนาดนี้ผมต้องดูให้ทั่วนั่นแหละ ค่าเข้าชม 20 บาท ค่าไกด์กรุ๊ปละ 200 บาท ถ้าอยากประหยัดให้รอแจมกับคนอื่นๆ ตรงจุดเริ่มนำเที่ยวได้เลย ไปถึงแล้วยังไงต้องชมให้ครบทุกส่วน
โครงการหลวงห้วยลึก
ออกถนนใหญ่ ทล.107 วิ่งขึ้นเหนือต่อไปอำเภอไชยปราการ ระหว่างทางผ่านศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึกเลยแวะพักกินข้าว อาหารหลากหลายดีครับ แบบจานเดียวราคาไม่แพง เครื่องดื่มก็เพียบ ผมทานชุดนี้ ข้าวผักน้ำพริกหนุ่ม กับน้ำผึ้งมะนาวโซดา รวมแล้ว 85 บาท
อิ่มอร่อยแล้วขี่รถเข้าไปดูภายในโครงการฯ เหมือนทุกที่ทั่วไปคือมีแปลงเกษตรต่างๆ ที่เราสามารถเดินชม แต่ที่นี่เด่นตรงการปลูกดอกไม้ประดับและไม้กระถาง เบญจมาศกำลังสวยหลายแปลง เพลินถ่ายรูปแทบลืมเวลา
อช.ดอยเวียงผา
เพราะใช้เวลาที่ถ้ำเชียงดาวกับโครงการหลวงห้วยลึกนานกว่าที่คาด ผมจึงไม่คิดว่าจะไปถึงอำเภอฝางทันก่อนค่ำ เพื่อความสบายใจเลยแว่บไปนอนที่ อช.ดอยเวียงผา เข้าจากถนน ทล.107 ราว 15 กิโลเมตร บรรยากาศเหมาะกับการกางเต็นท์อย่างยิ่ง ห้องน้ำสะอาดสุดๆ และคนเดียวแบบนี้เจ้าหน้าที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ ส่วนค่าเข้าไม่เสียอยู่แล้วเพราะเป็นอุทยานฯ อยู่ระหว่างเตรียมการ แต่ว่าไม่มีร้านอาหารบริการนะ ต้องซื้อเข้ามาล่วงหน้า
ผมรู้จักที่นี่เพราะเคยขึ้นยอดดอยเวียงผามาก่อน เดินป่าสามวันสองคืน เป็นดอยแนะนำสำหรับมือใหม่ครับ เดินไม่ยากมากและสวยไม่ใช่น้อย
Day 5
เส้นทางวันนี้
* เช้า อช.ดอยเวียงผา
* ถนน ทล.107 ช่วง ไชยปราการ – ฝาง- แม่อาย
* น้ำพุร้อนฝาง – ห้วยแม่ใจ อช.ดอยผ้าห่มปก
* น้ำตกปู่หมื่น
* ถนน ชม.3037 บ้านห้วยป่าซาง – ดอยผ้าห่มปก
* โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่
* กางเต็นท์ กิ่วลม อช.ดอยผ้าห่มปก
วิ่งเส้น ทล.107 จากอำเภอไชยปราการ เข้าอำเภอฝาง และบ่อน้ำพุร้อนฝาง ที่ทำการฯ อช.ดอยผ้าห่มปก เจ้าหน้าที่แนะนำเส้นทางขึ้นยอดผ้าห่มปกสำหรับมอเตอร์ไซค์ให้ใช้ ถนน ชม.3037 ฝั่งบ้านห้วยป่าซาง ตำบลแม่ใจ อำเภอแม่อาย อ้อมกว่าแต่ถนนคอนกรีตทั้งสาย หากขึ้นทางสั้นคือจากบ้านห้วยบอน อำเภอฝาง จะเป็นทางลูกรังเหมาะกับกระบะเท่านั้น
น้ำพุร้อนฝาง อช.ดอยผ้าห่มปก
ชื่อคือ อช.ดอยผ้าห่มปก แต่ตรงที่ทำการฯ น่ะคือน้ำพุร้อนฝาง จ่ายค่าเข้าตามระเบียบ คนไทย 50 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท ที่นี่จัดทำพื้นที่ไว้ดีและกว้างขวางมาก ลักษณะเหมือนสวนสาธารณะธรรมชาติให้ผู้คนเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ และแน่นอนว่าต้องต้มไข่กิน แต่อุณหภูมิน้ำที่นี่ร้อนน้อยกว่าที่โป่งเดือดป๋าแป๋ ใช้เวลาต้มนานกว่าเป็นเท่าตัว
ห้วยแม่ใจ
มาถึงที่ทำการฯ อช.ดอยผ้าห่มปก อย่าแค่แวะบ่อน้ำร้อน เพราะเลยเข้าไปสักสองสามร้อยเมตรจะเจอลำห้วยแม่ใจ วิวสวยบรรยากาศเจิดแจ่ม มีสะพานแขวนข้ามลำธารให้ชมวิวและถ่ายรูปเล่น ง่ายๆ แต่สบายใจเป็นที่สุด
ด่านฯ ห้วยบอน
คุยกับเจ้าหน้าที่เรื่องขี่รถขึ้นยอดดอยผ้าห่มปก ได้รับคำแนะนำมาว่าทางหลักและสั้นที่สุดที่ห้วยบอนคือลูกรัง แต่จะมีทางอ้อมที่บ้านห้วยป่าซาง อำเภอแม่อาย ทางขึ้นโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เป็นถนนคอนกรีต รถเครื่องน่าจะไหวทั้งสองเส้น แต่พอผมไปถึงด่านห้วยบอน เจ้าหน้าที่ประจำจุดบอกว่าอ้อมไปทางห้วยป่าซางเถอะไอ้น้อง ขึ้นทางนี้จะไม่ถึงเสียเปล่าเพราะช่วงนี้ฝนตกทางเละเป็นโจ๊ก
น้ำตกปู่หมื่น อช.ดอยผ้าห่มปก
จากห้วยบอนขี่ตามป้ายโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เลี้ยวซ้ายเข้าถนน ชม.3037 เป็นทางพาขึ้นดอย แต่ยังไม่ทันไรเจอป้ายน้ำตกปู่หมื่น ตะโกนถามคนแถวนั้นบอกว่าเข้าไปอีก 12 กิโลเมตร คิดในใจเอาไงก็เอา บอกเลยเป็น 12 กิโลเมตร ที่ไม่ธรรมดา ขึ้นเขาลงเขาเร่งเครื่องกันสุดตัว
สุดถนนเป็นลานจอดรถ ว่างเปล่า ไร้ผู้คน ไร้นักท่องเที่ยว คลำหาทางเดินสักพักจึงเจอตรงหลังห้องน้ำ เดินสัก 200 เมตร ก็ถึงน้ำตกซึ่งซุกซ่อนกลางป่าเขียว ชั้นน้ำตกสวยดีครับแต่ว่าน้ำแดงทะลักมาแบบรุนแรง สถานการณ์เช่นนี้ฝนตกบนเขาแน่นอน เอาล่ะตั้งขาตั้งถ่ายภาพไว้หนึ่งใบแล้วรีบเผ่นดีกว่า
หน่วยพิทักษ์ฯ บ้านเล็กในป่าใหญ่ อช.ดอยผ้าห่มปก
ย้อนกลับมาทางหลักในการขึ้นดอยอีกครั้ง (จริงๆ จากดอยปู่หมื่นมีป้ายบอกทางไปผ้าห่มปกด้วยครับแต่ผมไม่เสี่ยงเพราะเชื่อว่าเป็นลูกรังแน่ๆ) สักพักก็เจอด่านตรวจ ใครยังไม่จ่ายค่าบริการเข้า อช.ดอยผ้าห่มปก ก็ต้องมาเสียตรงนี้แหละ ส่วนผมจ่ายไปแล้วที่น้ำพุร้อนฝาง
ถนนบนดอยพาคดเคี้ยวเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จนรู้สึกชักเริ่มเมื่อยจึงถึงหน่วยพิทักษ์ฯ บ้านเล็กในป่าใหญ่ ของ อช.ดอยผ้าห่มปก จัดเป็นจุดชมวิวที่สวยใช้ได้ มีพื้นที่กางเต็นท์ และมีเรือนประทับแรมของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เป็นจุดพักรถตอนขึ้นดอยผ้าห่มปกเส้นทางนี้
บ้านเล็กในป่าใหญ่
แล้วบ้านเล็กในป่าใหญ่คืออะไร คือโครงการซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้นเพื่อจัดสรรพื้นที่ทำกินให้ชาวไทยภูเขามารวมกันเป็นหลักแหล่ง เป็นทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ราษฎร และป้องกันการรุกป่าไปในตัว โครงการนี้มีอยู่ที่หลายดอยหลายจังหวัดครับ
ตรงศูนย์ประสานงานโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ มีจุดชมวิวสวยอีกแห่งชื่อม่อนแสนรัก กางเต็นท์นอนได้เช่นกัน
ถนน ชม.3037
จากโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ไปดอยผ้าห่มปก ระยะทางอีกราว 20 กิโลเมตร ถนนคอนกรีตค่อนข้างดี แต่ทางชันหลายช่วงและค่อนข้างแคบ รถเก๋งแรงๆ ขึ้นถึงโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ไหวอยู่ (อีโคคาร์คงต้องขอบาย) แต่ถ้าจะต่อมาผ้าห่มปกรถเก๋งรุ่นไหนก็ดูท่าจะไม่รอด ต้องกระบะเป็นอย่างน้อย
ระหว่างทางจากบ้านเล็กไปดอยผ้าห่มปก ต้องผ่านธารน้ำตกช่วงนี้ด้วยครับ
จุดชมวิวดอยผ้าห่มปก
เมื่อยแล้วเมื่อยอีกจนถามตัวเองว่าเมื่อไหร่จะถึง รถก็มาโผล่ที่จุดชมวิวพอดี เป็นจุดซึ่งทางจากบ้านเล็ก มาบรรจบกับทางหลักจากด่านห้วยบอน ตั้งแต่นี้จะเป็นลูกรังทั้งหมดอีก 4 กิโลเมตร ถึงลานกางเต็นท์กิ่วลม แต่ทางไม่ชัน ไปได้เรื่อยๆ
ขอแวะถ่ายรูปสักหน่อย แสงเย็นกำลังสวย
กิ่วลม อช.ดอยผ้าห่มปก
ห้าโมงเย็นพอดี ในที่สุดก็ถึงลานกางเต็นท์กิ่วลม ดอยผ้าห่มปก (ยอดดอยต้องเดินอีก 3 กิโลเมตร) นักท่องเที่ยวพอประมาณ 70-80 คน แต่เทียบกับพื้นที่กว้างขวางเลยไม่ได้รู้สึกแออัด บรรยากาศดีมากครับ จ่ายค่าธรรมเนียม 30 บาท แล้วเลือกที่ทางได้ตามอัธยาศัย มีร้านอาหารตามสั่งง่ายๆ บริการด้วย
หลังอัดอั้นมานาน ในที่สุดวันนี้ก็ได้ลั่นชัตเตอร์เก็บภาพยามค่ำคืนสักที ฟ้าเปิดโล่งทำให้มีหวังในการลุ้นทะเลหมอกพรุ่งนี้
อ่านต่อตอนสอง คลิก >>> https://wp.me/p7ca93-1WF
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller