ทริปเดินทาง : 7-16 พฤศจิกายน 2560
ผมมักบอกใครอยู่เสมอว่าวิธีเที่ยวเชียงใหม่ให้สนุกที่สุดคือเช่ามอเตอร์ไซค์ เพราะไม่มีรถประเภทไหนจะลุยขึ้นเขาลงห้วยได้แบบไม่หวาดหวั่นเท่าเจ้าสองล้ออีกแล้ว (ยกเว้นใครจะมีโฟร์วีลล่ะนะ) ผมเที่ยวเชียงใหม่ด้วยมอเตอร์ไซค์มาตลอด แต่ก็ยังไปได้ซ้ำไม่รู้เบื่อและเที่ยวไม่ทั่วสักที
พฤศจิกายนที่ผ่านมา ลมหนาวเริ่มพัดแผ่ว เลยถือโอกาสแบกเป้ลุยเดี่ยวตะลอนเชี่ยงใหม่ด้วยมอเตอร์ไซค์อีกสักครั้ง ไปแบบไม่ได้วางแผนเยอะ ลุยไปเรื่อยๆ ปรากฎว่าใช้เวลาเบ็ดเสร็จสิบวัน ระยะทางรวมกันเกือบพันกิโล
เนื่องจากเป็นทริปยาวและรีวิวก็ยาวเหยียด เลยขอแบ่งเป็นสองตอนแล้วกัน
ตอนหนึ่ง คลิก >>> https://wp.me/p7ca93-1Wz
ทริปนี้เน้นขึ้นทางเหนือโดยเฉพาะ จากอำเภอเมือง ผ่านแม่ริม แม่แตง เชียงดาว ไชยปราการ ฝาง จนเฉียดเข้าอำเภอแม่อายนิดหน่อย เดินทางไปเรื่อยๆ เจออะไรน่าสนใจก็แวะที่นั่น และที่สุดทริปจึงออกมาหน้าตาแบบนี้ครับ
Day 6
เส้นทางวันนี้
* เช้า ยอดดอยผ้าห่มปก
* ถนน ชม.3037 ดอยผ้าห่มปก – บ้านห้วยป่าซาง
* ถนน ทล.107 ช่วง แม่อาย – ฝาง
* ถนน ชม.4017 แม่ใจ – เขื่อนแม่มาว
* น้ำรู
* เขื่อนแม่มาว – น้ำแม่มาว
* กางเต็นท์ น้ำพุร้อนฝาง อช.ดอยผ้าห่มปก
ลงจากดอยผ้าห่มปกด้วยเส้นทางเดิมผ่านบ้านเล็กในป่าใหญ่ กลับถึงถนนใหญ่ที่บ้านห้วยป่าซาง แล้วย้อนกลับไปอำเภอฝาง ไปกางเต็นท์นอนที่น้ำพุร้อนฝาง และขี่รถเที่ยวพื้นที่แถวนั้น
ยอดดอยผ้าห่มปก
กิ่วลมอยู่ที่ความสูง 1,924 เมตร ส่วนยอดดอยสูง 2,285 เมตร ซึ่งการไต่ระดับความสูงแค่นี้กับระยะทางตั้งสามกิโลเมตรกว่าๆ ทำให้ไม่ชันเท่าไหร่ เพียงแต่ต้องทำเวลาสักหน่อย ตื่นกันตั้งแต่ตีสามครึ่ง เริ่มเดินตีสี่จะถึงยอดราวตีห้าครึ่ง หรือช้าหน่อยก็ไม่เกินหกโมง ทันพระอาทิตย์ขึ้นพอดิบพอดี
ส่วนใครจะจ้างไกด์นำทางหรือไม่ก็ตามใจครับ ทางเดินชัดเจน แต่ขึ้นตอนเช้ามือสนิทถ้าอยากได้ความปลอดภัยและมีคนดูแลเป็นพิเศษก็ย่อมรู้สึกอุ่นใจมากกว่า
ความสวยงามของเช้าวันนั้น แม้จะไม่ใช่ทะเลหมอกแบบเต็มพื้นที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สวยจนต้องร้องว้าว และด้วยความที่ผมไม่ต้องเร่งรีบอะไร จึงอยู่บนยอดจนเป็นคนเดียวคนสุดท้าย ยอดดอยสูงสุดอันดับสองของประเทศเป็นของผมคนเดียว นั่นแหละคือสุดยอดจริงๆ
ขากลับลงมาได้สดชื่นกับเส้นทางสีเขียวซึ่งขาขึ้นมองไม่เห็นว่าเป็นอย่างไร หากใครมาถึงกิ่วลมตั้งแต่บ่ายจะเดินขึ้นมาเที่ยวยอดเล่นๆ ก็ได้นะ ไป-กลับ อย่างช้ารวมแล้วเดินไม่เกินสามชั่วโมง
น้ำรู อช.ดอยผ้าห่มปก
เก็บเต็นท์ลงจากดอยผ้าห่มปกตอนเที่ยง ถึงบ้านห้วยป่าซางบ่ายโมงเศษๆ ใจจริงมีแพลนขึ้นดอยอ่างขางต่อ แต่ผมไม่อยากรีบเลยตัดสินใจเที่ยวแถวฝางนี่แหละ ขี่รถไปทางน้ำพุร้อนฝางเห็นป้ายน้ำรู แหล่งท่องเที่ยว อช.ดอยผ้าห่มปก เลยตามป้ายไปเรื่อยๆ
น้ำรูเป็นน้ำผุดธรรมชาติ อุทยานฯ จัดสถานที่แบบสวนสาธารณะให้ผู้คนมาพักผ่อนหย่อนใจ มีร้านค้าร้านอาหารของชาวบ้าน เด็กๆ แถวนี้เล่นน้ำสนุกกันเชียว
เขื่อนแม่มาว
จากน้ำรูไปต่อถึงเขื่อนแม่มาว อยู่ติดกับสวนส้มธนาธร ตามป้ายไปได้เลย เป็นเขื่อนที่ภูมิทัศน์สวยมากครับ แต่เปิดให้เดินชมวิวเพียงแค่ระยะทางสั้นๆ เท่านั้น
น้ำแม่มาว
ขากลับขี่ย้อนทางเดิม เลียบลำน้ำมาวเจอร้านอาหารและเครื่องดื่มริมน้ำใกล้กันสองแห่ง ฮิมน้ำมาว กับอุ่นไอมาว (แทบไม่ต้องบอกว่าเลียนแบบชื่อมาจากอุ่นไอมาง ที่บ่อเกลือ) ผมลองแวะที่หลัง บรรยากาศริมน้ำใช้ได้เลย เอสเปรสโซ่เย็นแก้วละ 45 บาท ส่วนอาหารอื่นๆ ราคาธรรมดาเลยครับ ชิลๆ ได้สบายมาก
น้ำพุร้อนฝาง อช.ดอยผ้าห่มปก
พาสองล้อกลับไปน้ำพุร้อนฝางอีกครั้ง ถึงด่านตรวจบอกเจ้าหน้าที่ว่าเพิ่งลงจากผ้าห่มปกจะมากางเต็นท์นอนที่นี่อีกคืน เขาเลยโอเคงั้นเข้าไปเถอะไม่คิดเพิ่มหรอก
ลานกางเต็นท์ที่น้ำพุร้อนมีหลายจุด ผมเลือกลานหญ้ากว้างๆ ใกล้กับร้านค้าร้านอาหารซึ่งปิดประมาณหกโมงทุ่มนึง แถมห้องน้ำจุดนี้เพิ่งทำใหม่ และสามารถชาร์ตไฟได้ที่อาคารพัศดุของเจ้าหน้าที่
Day 7
เส้นทางวันนี้
* เช้า น้ำพุร้อนฝาง อช.ดอยผ้าห่มปก
* ถนน ทล.1249 แม่งอน – ดอยอ่างขาง
* จุดชมวิวม่อนสน
* จุดชมวิวบ้านขอบด้ง
* ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล
* นอแล กาแฟ
* กางเต็นท์ จุดชมวิวม่อนสน
จากน้ำพุร้อนฝางถึงเวลาขึ้นดอยอ่างขาง ผมรู้จักสองเส้นคือทางตรงดิ่งขึ้นด้วยถนน ทล.1249 ที่อำเภอฝาง และทางอ้อมขึ้นทางอำเภอไชยปราการ ด้วยอยากวัดว่ามอเตอร์ไซค์จะขึ้นทางตรงยากไหมก็ต้องลองสักหน่อย และแน่นอนว่าการเที่ยวบนดอยอ่างขางด้วยมอเตอร์ไซค์เป็นอะไรที่สะดวกสุดๆ
ถนน ทล.1249
เร่งออกจากน้ำพุร้อนฝางไม่ให้สายเกิน แต่ก็ต้องเสียเวลาและระยะทางหลายสิบกิโล เพราะ ทล.107 ที่ฝางกำลังทำถนนระยะยาวเลยหาทางต่อเข้า ทล.1249 ขึ้นดอยอ่างขางไม่เจอ พอเจอแล้วก็มาพบกับเรื่องช็อคเล็กๆ ว่ามีการปิดถนนซ่อมทาง แต่ถามชาวบ้านแถวนั้นบอกว่ารถเครื่องขึ้นไปได้เลย
สวนส้ม ถนน ทล.1249
สวนส้มริมทาง ที่ฝางจะเห็นเกือบทุกสวนมีรั้วลวดหนามล้อมรอบขอบชิด แต่ระหว่างทางขึ้นอ่างขางไม่เห็นมีแฮะ ขอแวะถ่ายภาพสักหน่อยนะ
ม่อนสน (ดอยอ่างขาง) อช.ดอยผ้าห่มปก
ทางชันจริง หักศอกจริง ตบเกียร์หนึ่งเร่งเครื่องสุดฤทธิ์แต่ก็พิชิตขึ้นสู่ดอยอ่างขางสำเร็จ แวะพักที่จุดชมวิวม่อนสน เป็นลานกางเต็นท์ของ อช.ดอยผ้าห่มปก ตัดสินใจนอนตรงนี้แหละ ติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เสียค่ากางเต็นท์ 30 บาท ส่วนค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ แค่บอกว่าเพิ่งนอนผ้าห่มปกคืนนึง น้ำพุร้อนฝางอีกคืน เจ้าหน้าที่ก็รู้แล้วว่าผมรักที่นี่จริงๆ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มหรอก (ฮา…) สรุปสามวันเสียค่าเข้าครั้งเดียว
จุดชมวิวบ้านขอบด้ง
ปฏิบัติการเที่ยวอ่างขางเริ่มต้น ขี่รถขึ้นไปบ้านขอบด้ง-บ้านนอแล ผ่านจุดชมวิวบ้านขอบด้ง เดินจากถนนเข้าไปแค่ร้อยเมตร ชาวบ้านบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นตรงนี้สวยนะ ผมเลยขอเก็บไว้เป็นตัวเลือกพิจารณาสำหรับเช้าพรุ่งนี้ ด้านหน้าทางเข้าจุดชมวิวมีร้านอาหารสไตล์จีนยูนนานหลายร้านเลยล่ะ เปิดทั้งวันเพราะร้านขายของที่อ่างขางเขากางเต็นท์นอนเฝ้าร้านครับ
ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล
ต่อไปถึงฐานปฏิบัติการบ้านนอแล สุดเขตแดนไทย-พม่า ถามทหารที่ป้อมว่าพม่าตรงไหนไทยตรงไหน น้องทหารตอบสวนมาเลยว่า “ที่รถพี่จอดอยู่เนี่ยพม่า” ก่อนอธิบายเรื่องเขตแดนให้ฟังว่าถนนที่ตัดผ่านบ้านนอแล ครึ่งขวาเป็นของไทย ครึ่งซ้ายเป็นพม่า หมายความว่าหมู่บ้านนอแลส่วนหนึ่งอยู่ในเขตพม่า เพียงแต่มีเจรจรให้เราดูแลเขาลูกนี้ แลกกับที่ต้องให้พม่าตั้งฐานบนเขาอีกลูก
ที่นี่เราสามารถมากางเต็นท์นอนได้นะครับ ไม่มีค่าบริการแต่อย่างใด
นอแล กาแฟ
ระหว่างทางขึ้นฐานฯ นอแล เจอร้านกาแฟวิวดีอยู่ทางซ้ายที่เป็นพม่านี่นา เลยถามน้องทหารต่อว่า “งั้นร้านกาแฟนั่นก็พม่าน่ะสิ” เขาหัวเราะร่า “เห็นว่าจะให้รื้ออยู่นี่แหละครับ เมื่อเช้าเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพิ่งมาดูพื้นที่กัน”
ผมตั้งใจจะแวะกินกาแฟชมวิวตอนขาลงอยู่แล้ว เจอแบบนี้ยิ่งต้องแวะ เดินเข้าไปเห็นเจ้าของร้านหนุ่มนั่งอยู่ ผมยิ้มทักเลยว่า “แวะมากินกาแฟพม่าสักหน่อยครับ” น้องเขายิ้มเล็กๆ “พี่รู้ได้ยังไง”
ลงเอยด้วยการนั่งคุยเรื่องที่มาที่ไปของการมาเปิดร้านตรงนี้และอื่นๆ จิปาถะอยู่นาน เป็นร้านน่ารักดีครับ เจ้าของร้าน (แต่ไม่ใช่เจ้าของที่นะ) หนุ่มสาวน่ารักทั้งคู่ เอสเปรสโซ่เย็นแก้วละ 75 บาท รสชาติดีเลยล่ะ ขาออกมาก็อวยพรขอให้ได้เปิดร้านต่อไปอย่าโดนรื้อแล้วกัน คราวหน้าผมจะได้มานั่งกินกาแฟที่พม่าอีก (ฮา…)
ม่อนสน (ดอยอ่างขาง) อช.ดอยผ้าห่มปก
เมาส์มอยที่ร้านกาแฟนานไปหน่อย วันนี้พอแค่นี้แหละกลับลงมาม่อนสนดีกว่า บรรยากาศตอนเย็นกำลังดี นักท่องเที่ยวที่มากางเต็นท์เพิ่มขึ้นจากตอนบ่ายเป็นเท่าตัว
ข้อเสียของม่อนสนคือเป็นลานกางเต็นท์ใหญ่ นักท่องเที่ยวเยอะ แสงไฟรบกวนเลยมหาศาล คืนนี้ฟ้าเปิดแต่ถ่ายภาพดาวยากมาก มุมไหนก็ตัดแสงไฟหมด ได้มาพอกล้อมแกล้มแค่นี้เองครับ
Day 8
เส้นทางวันนี้
* เช้า จุดชมวิวบ้านขอบด้ง
* บ้านนอแล – บ้านขอบด้ง
* สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
* ถนน ทล.1178 ดอยอ่างขาง-เชียงดาว
* จุดชมวิวซุยถัง
* ม่อนแสนดาว (หน่วยจัดการต้นน้ำห้วยสูน)
* น้ำตกศรีสังวาลย์ อช.ผาแดง
* กางเต็นท์ บ่อน้ำร้อนโป่งอาง อช.ผาแดง
ตะลอนอยู่บนอ่างขางครึ่งวันแรก ก่อนลงจากดอยด้วยเส้นทาง ทล.1178 ซึ่งจะเชื่อมไปลงทางอำเภอไชยปราการหรืออำเภอเชียงดาวก็ได้ ตอนแรกเลือกลงทางไชยปราการ ก่อนกลับลำย้อนไปทางเชียงดาว เพื่อแวะอุทยานแห่งชาติผาแดง
จุดชมวิวบ้านขอบด้ง
ตั้งนาฬิกาปลุกเปิดเต็นท์ตีห้าครึ่ง นอกจากฟ้าจะเต็มไปด้วยเมฆยังไม่มีวี่แววของหมอก เลยตัดสินใจขี่รถขึ้นไปจุดชมวิวบ้านขอบด้ง วัดดวงในมุมที่ต่างกัน ซึ่งไม่ผิดหวังเลย ทะเลหมอกแบบบางๆ กับพระอาทิตย์ดวงไข่แดง แค่นี้ก็พอให้ประทับใจแล้ว
อย่างที่บอก ด้านหน้าจุดชมวิวบ้านขอบด้งมีร้านอาหารจีนยูนนานขายกันเยอะ เช้าๆ แบบนี้ได้หมั่นโถวสองลูก กับซุปกระดูกหมูตุ๋นยาจีนร้อนๆ ฟินท้องไปเลย
บ้านนอแล
กลับขึ้นไปบ้านนอแล บ้านขอบด้ง เพราะเมื่อวานยังไม่ได้แวะไปไร่ชา ไร่สตรอว์เบอร์รี่ ผมไม่ได้หลงใหลที่เที่ยวแบบนี้สักเท่าไหร่ แต่แวะถ่ายภาพเก็บไว้นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่เสียหาย
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
อยู่อ่างขางพักใหญ่แล้วยังไม่ได้ไปสถานีเกษตรหลวงอ่างขางเลย ค่าเข้า 50 บาท ก็จัดไป ด้านในมีอะไรให้ชมเยอะทีเดียว คนรักดอกไม้อย่างผมให้ถ่ายรูปเล่นคงอยู่ได้ทั้งวัน แต่ถึงอย่างไรช่วงนี้ยังไม่ได้พีคที่สุด เพราะไฮไลท์อย่างดอกท้อ ดอกบ๊วย นางพญาเสือโคร่ง ยังไม่บาน ใครอยากมาช่วงนั้นก็ตามข่าวการบานให้ดีแล้วกัน
จุดชมวิวซุยถัง
กว่าจะได้ฤกษ์ลงจากอ่างขางปาไปบ่ายโมง ขาลงเลือกทาง ถนน ทล.1178 ซึ่งอ้อมไปทางอำเภอไชยปราการหรืออำเภอเชียงดาวก็ได้ อยากรู้ว่าทางจะง่ายกว่าเส้น ทล.1249 สักแค่ไหน ซึ่งคำตอบคือง่ายกว่าพอสมควร ระหว่างทางผ่านจุดชมวิวซุยถัง เป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ฯ อช.ดอยผ้าห่มปก ถ้าคนข้างบนล้น ลงมากางเต็นท์แถวนี้ก็มีวิวภูเขาสวยใช้ได้นะ
ม่อนแสนดาว
ขี่มอเตอร์ไซค์ลงมาเรื่อยๆ ถึงสามแยกบ้านสินชัยแล้วเลี้ยวซ้ายเพื่อลงทางอำเภอไชยปราการ มาได้สักพักเห็นป้ายม่อนแสนดาว ต้องลองแวะดูสักหน่อย โอ้โห… หากไม่ได้มานี่เสียดายแย่เลย ที่นี่คือหน่วยจัดการต้นน้ำห้วยสูน มีบ้านพักและลานกางเต็นท์บริการ วิวสวย บรรยากาศดี ช่วงที่ผมไปกำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุง คาดว่าน่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้ ติดต่อ 081 960 9626
น้ำตกศรีสังวาลย์ อช.ผาแดง
สำรวจที่ทางม่อนแสนดาวอยู่นาน ดูนาฬิกาอีกทีวันนี้กว่าจะไปถึงแม่ริม (ตั้งใจไปกางเต็นท์ม่อนแจ่ม) คงมืดค่ำ และผมไม่อยากกลับไปนอนที่ดอยเวียงผาให้ซ้ำด้วย นึกหาที่นอนใหม่ๆ เปิดแผนที่ดูเล็กน้อยแล้วตัดสินใจย้อนกลับขึ้นไปสามแยกบ้านสินชัย เปลี่ยนไปลงทางอำเภอเชียงดาว ระหว่างทางจะผ่านน้ำตกศรีสังวาลย์ ที่ทำการ อช.ผาแดง นอนที่นั่นแล้วกัน
น้ำตกศรีสังวาลย์เป็นน้ำตกหินปูนขนาดไม่ใหญ่แต่สวยร่มรื่น ชื่อน้ำตกเป็นนามพระราชทานที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงตั้งเมื่อครั้งเสด็จประพาส ปี พ.ศ. 2510 ค่าธรรมเนียม คนไทย 20 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท
อย่างไรก็เถอะลานกางเต็นท์ที่นี่ทั้งสองจุดไม่ค่อยสะดวก ห้องน้ำค่อนข้างเก่า เจ้าหน้าที่แนะนำว่าถ้าอยากกางเต็นท์ให้ไปที่หน่วยพิทักษ์ฯ บ่อน้ำร้อนโป่งอ่าง อยู่ห่างออกไปไม่เกินสิบนาทีจะดีกว่า ฉะนั้นพอถ่ายภาพน้ำตกเสร็จแล้วมูฟกันต่อเลย
บ่อน้ำร้อนโป่งอาง อช.ผาแดง
มาถึงหน่วยพิทักษ์ฯ บ่อน้ำร้อนโป่งอางแล้วรักเลย คิดถูกมากที่มานอนที่นี่ ลานกางเต็นท์ขนาดกำลังดี พื้นที่ร่มรื่น และมีบ่อน้ำร้อนให้อาบให้แช่อย่างสบายใจ บ้านพักเจ้าหน้าที่ก็อยู่ในพื้นที่ให้รู้สึกปลอดภัย จ่ายค่ากางเต็นท์ 30 บาท สำหรับอาหารไม่มีขายไม่เป็นปัญหา ผมรู้อยู่แล้วซื้อมาเตรียมเรียบร้อย
อุณหภูมิน้ำที่นี่ไม่สูงครับ เอาเป็นว่าไม่ร้อนพอจะทำให้ไข่สุก แต่พอเหมาะกับการแช่น้ำมากๆ
Day 9
เส้นทางวันนี้
* เช้า บ่อน้ำร้อนโป่งอาง อช.ผาแดง
* กาแฟห้วยเป้า
* ถนน ทล.1178 ดอยอ่างขาง – เชียงดาว ขาลงต่อ
* ถนน ทล.107 ช่วง เชียงดาว – แม่แตง – แม่ริม
* วัดบ้านเด่น อ.แม่แตง
* ถนน ทล.1096 แม่ริม-สะเมิง
* น้ำตกแม่สา อช.ดอยสุเทพ-ปุย
* สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
* ถนน ชม.4051 (ขึ้นม่อนแจ่ม)
* กางเต็นท์ บ้านหนองหอยเก่า (ม่อนแจ่ม)
ออกจากบ่อน้ำร้อนโป่งอาง ใช้ ทล.1178 ยิงยาวจนถึงอำเภอเชียงดาว เลี้ยวเข้า ทล.107 ผ่านอำเภอแม่แตง (แวะเที่ยววัดบ้านเด่นสักพัก) เข้าอำเภอแม่ริม เลี้ยวขวาตาม ทล.1096 ผ่านน้ำตกแม่สา กับสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ก่อนเลี้ยวขวาขึ้นสู่ม่อนแจ่ม
บ่อน้ำร้อนโป่งอาง อช.ผาแดง
ตื่นเช้าๆ อากาศเย็นๆ จะมีอะไรดีไปกว่าการได้สัมผัสน้ำอุ่น การนอนที่บ่อน้ำร้อนมันก็ดีอย่างนี้แหละ
กาแฟห้วยเป้า
ออกจากบ่อน้ำร้อนโป่งอางมาไม่ไกล เห็นป้ายร้านกาแฟ ขนมจีน ข้าวซอย ดูสะอาดสะอ้านอยู่หน้าโครงการขยายผลโครงการหลวงห้วยเป้า แต่คงเช้าไปหน่อยเลยเพิ่งเตรียมเสร็จแค่น้ำเงี้ยว แต่ก็จัดว่าเด็ดมากครับ คิดว่าจะไม่ได้กินน้ำเงี้ยวอร่อยๆ แล้วงวดนี้ ที่สำคัญชามนี้กับผักสดๆ แค่ 25 บาท
วัดบ้านเด่น
จากเชียงดาวถึงอำเภอแม่แตง เลี้ยวซ้ายไปทางเขื่อนแม่งัดสักนิด มีเพื่อนฝูงแนะนำมาว่าให้ไปวัดบ้านเด่น หรือวัดเด่นสะหลีศรีเมืองแกน คราวก่อนตอนผ่านมาไม่ได้เข้าไป ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเพื่อนถึงให้มาที่นี่ แปลกใจตรงผมไปอยู่ที่ไหนมาถึงไม่รู้ว่ามีวัดสวยๆ ตรงนี้ ทั้งที่ต่างชาติเข้ามาเที่ยวกันเป็นสิบเป็นร้อยบัสในแต่ละวัน
น้ำตกแม่สา อช.ดอยสุเทพ-ปุย
พ้นแม่แตงก็ถึงอำเภอแม่ริม เลี้ยวขวาเข้า ทล.1096 แม่ริม-สะเมิง ผมชอบเรียกถนนเส้นนี้ว่าถนนสารพัดสัตว์ เพราะมีสวนเสือ ปางช้าง โชว์ลิง โชว์งู โชว์จระเข้ สวนสัตว์แมลง พอผ่านไปถึงน้ำตกแม่สา พื้นที่ของ อช.ดอยสุเทพ-ปุย ก็ขอเลี้ยวแวะไปสักหน่อย ช่วงนี้น้ำน่าจะเยอะสวยพอสมควร เป็นน้ำตกเที่ยวง่ายใกล้เมืองเชียงใหม่ สถานที่จัดทำไว้ดีจะเดินเล่นกี่ชั้นก็ตามสบาย ค่าธรรมเนียม คนไทย 20 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
อีกไม่ไกลนักก็ถึงสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ หนล่าสุดที่มาทางเดินยอดไม้ Canopy Walkway ยังไม่เสร็จ ครั้งนี้เลยโฉบเข้าไปอัพเดตภาพนิดหน่อย ค่าเข้า คนไทย 40 บาท มอเตอร์ไซค์ 30 บาท ทางเดินสวยสมคำคุย ถ้ามีนางแบบมาด้วยคงพอร์ทเทรตเพลินๆ แต่ถึงอย่างไรส่วนที่ผมชอบมากที่สุดยังคงเป็นกลุ่มเรือนกระจก ซึ่งแต่ละเรือนปลูกพืชพรรณต่างชนิดกันเหมือนเดิม
บ้านหนองหอยเก่า (ม่อนแจ่ม)
เพราะแวะรายทางตลอดกว่าจะถึงม่อนแจ่มเลยปาเข้าไปห้าโมงเย็น ขอทำความเข้าใจสักนิดหากใครยังไม่เคยไป ม่อนแจ่มเป็นชื่อที่พักที่เที่ยวแห่งหนึ่งในบ้านหนองหอยเก่า หมู่บ้านซึ่งอยู่ในหุบเขาและเป็นที่ตั้งของโครงการหลวงหนองหอย ในหมู่บ้านยังมีที่พักอีกหลายสิบแห่ง แต่ละแห่งชื่อม่อนโน้น ม่อนนี้ ว่ากันไป แต่ด้วยม่อนแจ่มเป็นแห่งแรกที่ทำให้บ้านหนองหอยเก่าโด่งดัง เราเลยเรียกพื้นที่แถวนี้รวมๆ ว่าม่อนแจ่ม เข้าใจกันง่ายดี
หลังวนไปวนมาหาทำเลสำหรับกางเต็นท์ (ที่พักส่วนใหญ่จะมีเต็นท์กางให้อยู่แล้ว ไม่ให้กางเต็นท์เอง) ก็มาเจอไร่หยดเหมย อยู่ติดกับม่อนอิงดาว คิดค่าพื้นที่กางเต็นท์คนละ 100 บาท วิวพอโอเค สำหรับผมม่อนแจ่มวิวไม่ได้เลิศหรูอยู่แล้ว
ตรงนี้เป็นวิวจากที่พักชื่อแปลกว่าบ้านหว่าญ่า วิวเขาฝั่งนี้สวยกว่าฝั่งที่ผมพัก น่าเสียดายว่าที่นี่ค่อนข้างหรูและไม่อนุญาตให้กางเต็นท์
ยามค่ำที่บ้านหนองหอยเก่า ดาวบนดินเยอะจนดาวบนฟ้าสู่แสงไม่ไหวกันเลยทีเดียว
Day 10
เส้นทางวันนี้
* เช้า บ้านหนองหอยเก่า
* ม่อนแจ่ม
* ถนน ชม.4051 ขาลง
* ถนน ทล.1096 สะเมิง-แม่ริม
* ถนน ทล.107 ช่วง แม่ริม-เชียงใหม่
* สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ (อาเขต)
จากม่อนแจ่มก็ได้เวลากลับบ้าน ขากลับง่ายๆ คือย้อนเส้นทางเดิมทั้งหมด พอกลับถึง ทล.107 ค่อยยิงยาวเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เวลาแค่ราวชั่วโมงนิดๆ
ยามเช้าที่บ้านหนองหอยเก่า ไม่สวยมาก สวยแบบพอดีๆ ในบรรยากาศพอดีๆ
ม่อนแจ่ม
ได้เวลาไปม่อนแจ่มที่เป็นม่อนแจ่มจริงๆ ครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ขี้เกียจจนับ ถามว่ามาเพราะชอบงั้นหรือ ขอตอบว่าเปล่าเลย เหตุที่มาบ่อยเพราะอยากจะเก็บภาพที่นี่แบบสวยๆ ให้ได้สักครั้ง และที่ผ่านมามันยังไม่รู้สึกว่าสวยเลยน่ะสิ (ฮา…) ต้องโทษตัวผมเองเพราะม่อนแจ่มไม่ได้สวยในตัวของมัน แต่สวยด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ ถ้าไม่ได้มาช่วงดอกไม้กำลังบาน มันก็ย่อมไม่แจ่มแมวอย่างที่หวัง
ครั้งนี้ก็เช่นกัน มีดอกไม้นิดๆ หน่อยๆ แต่ไม่ถึงที่สุด สงสัยต้องมีครั้งหน้าอีกล่ะมั้ง
จบทริป
ออกจากม่อนแจ่มก็ดึ่งตรงกลับอาเขต เพราะจองตั๋วรถไว้รอบบ่ายสองโมง อย่างที่บอกครับการคืนรถที่ Bikky ไม่เคยมีปัญหา จ่ายค่าเช่าเพิ่มจากที่เคยจ่ายไว้อีก 400 บาท (เกินไปหนึ่งวันกับอีกสองชั่วโมงครึ่ง) ใช้เวลาแป๊บเดียวก็เคลียร์เรียบร้อย
ทริปนี้สรุปรวมระยะทางทั้งหมด ทั้งอ้อม ทั้งหลง ทั้งไปๆ กลับๆ ขี่วนแล้ววนเล่า ประมาณ 950 กิโลเมตร เติมน้ำมัน 560 บาท โชคดีที่ไม่มีเครื่องสะดุด โซ่กระตุก ยางแบน สตาร์ตไม่ติด หากผมเป็นรถคงอยากร้องไห้ขออย่าเจอคนเช่าแบบนี้อีกเลย (ฮา…)
ปิดทริปเชียงใหม่สิบวันสนุกมากครับขอบอก แต่ถ้าใครบอกว่าไปเที่ยวทั่วเลย ผมคงต้องแย้งขาดใจ เพราะสิบวันที่ผ่านมา ผมเที่ยวไม่ถึงครึ่งของสิ่งดีๆ ที่มีด้วยซ้ำ เส้นทาง แมริม – แม่แตง – เชียงดาว – ไชยปราการ – ฝาง – แม่อาย คงจะต้องมีซ้ำอีกรอบเพื่อเที่ยวในที่ซึ่งแตกต่างออกไป
ไว้เจอกันใหม่ไม่ช้าก็เร็ว ผ่านมาแล้วพันกิโล อีกสักพันกิโลจะเป็นไรไปล่ะ…
อ่านตอนหนึ่ง คลิก >>> https://wp.me/p7ca93-1Wz
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller