
ทริปเดินทาง : 22-23 เมษายน 2562
เกาะเปริด (อ่านว่า เปิด ใส่ ร.เรือ กระดกลิ้น) อยู่ที่ไหน จังหวัดอะไร มีอะไรดีก็ไม่เคยรู้จักมาก่อนหรอกครับ จนเมื่อปีก่อนเราจึงเริ่มเห็นภาพสถานที่ซึ่งเรียกว่าเกาะเปริด ออกมายั่วต่อมอยากเที่ยวให้พลุ่งพล่านในโลกโซเชียล บอกว่าที่นี่คือบาหลีเมืองไทย เห็นแล้วก็ได้แต่ร้องว้าว ปักหมุดเลยว่าต้องไปให้ได้
จนสักซัมเมอร์หน้าร้อนหลังกรานต์ที่ผ่านมาจึงสมใจสักที ได้เที่ยวเกาะเปริด แถมไม่ใช่แค่การมาชมวิวที่เขาว่าเหมือนบาหลีแป๊บๆ แล้วจากไปท่านั้น ยังเป็นการเที่ยวเกาะเปริดอย่างเต็มรูปแบบ พักโฮมสเตย์ ดูวิถีชีวิตผู้คนบนเกาะ
เกาะเปริด อยู่ในอำเภอแหลมสิงห์ จันทบุรี ในอดีตเคยเป็นเกาะ แต่ตอนนี้เลิกเป็นแล้ว (ฮา…) ที่เป็นเช่นนั้นเพราะสมัย มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (นานแค่ไหนคิดดู) มีการถมทะเลสร้างถนนสู่เกาะเปริด จึงหมดจากสภาพการเป็นเกาะตั้งแต่นั้นมา ผู้คนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นชาวจีนครับ มาตั้งถิ่นฐานในยุคล่องเรือสำเภาค้าขายตั้งแต่เป็นร้อยๆ ปีก่อน

การท่องเที่ยวอย่างจริงจังบนเกาะเปริดเพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อกลางปี 61 ที่ผ่านมานี่เอง จากความพยายามของคนกลุ่มหนึ่งในชุมชนที่มองเห็นว่าทรัพยกรด้านการท่องเที่ยวที่ตัวเองมีน่าจะขายได้ ซึ่งมันก็ขายได้จริงๆ ใช่ไหมล่ะ ผมเห็นภาพแล้วยังอยากมาเที่ยวเลย

ถ้าอยากแค่มาชมวิว ขับรถมาได้เลยครับ ถ่ายรูปเสร็จก็กลับ (ฮา…) แต่ถ้าอยากสัมผัสเกาะเปริดแบบเต็มๆ มีความสุขอย่างเต็มที่ แนะนำให้มานอนค้าง ติดต่อโลดที่ “เจริญกัลป์ โฮมสเตย์” โทร. 0973290193 (คุณบอย) เป็นที่พักแบบโฮมสเตย์ชุมชนแห่งเดียวบนเกาะในขณะนี้
พักหนึ่งคืน หรือสองคืน กิจกรรมเต็มๆ อาหารเน้นๆ มีหลายลักษณะให้เลือก แต่แพ็คเกจยอดนิยมคือ สองวันหนึ่งคืน พร้อมอาหารสามมื้อ กลางวัน เย็น (บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด) และเช้า รวมถึงนั่งเรือไปเที่ยวเกาะกวาง เกาะเล็กๆ ซึ่งอยู่ใกล้เกาะเปริด ราคาแพ็คเกจวันธรรมดา 1,300 บาท ต่อคน สุดสัปดาห์และวันหยุด 1,500 บาท ต่อคน มากี่คนก็รับ อยากควงแฟนมากระหนุงกระหนิงสองต่อสองก็รับ โนพลอมแพลม
ทริปนี้พวกเราเดินทางกันสิบกว่าคนจาก กทม. ถึงเกาะเปริดตอนเที่ยงๆ ก็ตรงไปทานอาหารอร่อยก่อนเลยที่ร้านปู่ทะเล เป็นร้านริมทะเลตรงสะพานท่าเรืออ่าวโล้ง มองเห็นเกาะกวางอยู่ใกล้ๆ อาหารไทยๆ เน้นวัตถุดิบจากทะเล รสชาติอร่อยดีครับ


กินอาหารเสร็จสรรพก็เอาของไปเก็บที่บ้านพักเจริญกัลป์ โฮมสเตย์ เป็นอาคารพาณิชย์สองชั้นสามคูหา แต่ก่อนที่นี่เป็นร้านขายของชำ เพิ่งรีโนเวทมาเป็นบ้านพักตอนเริ่มเปิดทำท่องเที่ยวนี่เอง ชั้นบนแบ่งเป็นห้องย่อยหลายห้อง หนึ่งห้องนอนได้สี่ห้าคน ติดแอร์ทุกห้องครับ ส่วนเรื่องห้องน้ำภายในบ้านมีเพียบไม่ต้องกังวล



ความจริงบ่ายแก่ๆ วันนี้เรามีโปรแกรมล่องเรือไปเกาะกวาง แต่บังเอิญสภาพอากาศไม่เป็นใจ ลมแรงคลื่นแรง เราเลยไปเตร็ดเตร่กันที่จุดชมวิวแลนด์มาร์คของเกาะเปริด มีชื่อว่าผาสุขนิรันดร์ กับจุดชมวิวซันชายน์ ทั้งสองจุดอยู่ห่างกันนิดเดียว เดินจากลานจอดรถที่วัดเกาะเปริดไปประมาณ 300 เมตร เท่านั้น

ตรงจุดชมวิวซันชายน์ มีคาเฟ่ตั้งอยู่ชื่อ สกายวิว คาเฟ่ (Sky View Cafe) เพิ่งสร้างใหม่ทันใจหลังจากเกาะเปริดเริ่มโด่งดังนี่เอง ใครอยากแวะไปเช็คอิน นั่งเล่นถ่ายรูป ชมวิวกันเพลินๆ ก็เชิญตามใจชอบครับ


สำหรับจุดชมวิวบาหลีเมืองไทยต้องเดินต่อไปอีกสัก 200 เมตร ที่ผาสุขนิรันดร์ มองวิวแล้วต้องร้องโอ้วเลยครับ สวยดีทีเดียวเชียว โดยส่วนตัวสำหรับคนเคยไปบาหลีมาแล้วแบบผม การเทียบที่นี่กับบาหลีต้องบอกว่าเกินไปหน่อย ไม่ใช่ว่าไม่สวยนะครับ แต่มันสวยแบบจันทบุรี สวยแบบเกาะเปริดนี่แหละ ไม่ต้องเทียบกับที่ไหนหรือเลียนแบบใครหรอก
บันไดทางเดินที่เราเห็นเคยเป็นของร้านอาหารเก่าซึ่งปิดตัวลงไปเป็นสิบๆ ปี ทางลงอยู่ข้างคาเฟ่ ลงไปถ่ายรูปเล่นกันได้ครับ


พอใกล้เย็นเรามารอถ่ายแสงพระอาทิตย์ตกที่ผาสุขนิรันดร์ วาดภาพไว้หรูหรามาก แต่แห้วครับเพราะพระอาทิตย์ดันขี้อายหลบหลังเมฆซะได้

ก่อนฟ้าจะมืดเกินไป เราพากันกลับไปท่าเรืออ่าวโล้ง กินอาหารเย็นที่ร้านปู่ทะเล มื้อเย็นจัดหนักเลย ปู กุ้ง ปลา ต้มยำทะเล ทุกอย่างสามารถเติมได้ ทานเรื่อยๆ จนกว่าจะอิ่มกันไปข้าง



คืนนี้เข้านอนที่เจริญกัลป์ โฮมสเตย์ ใครอยากสังสรรค์เฮฮาดูทีวี จัดได้เลยตรงชั้นล่าง มีโต๊ะ โซฟา ที่นั่ง สบายๆ เหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนล่ะครับ
ผมตื่นแต่เช้า นอนสบายแอร์เย็นฉ่ำจนไม่อยากลุกแต่ก็ต้องลุก เพราะพระอาทิตย์รอเราอยู่ ปั่นจักรยานกับเพื่อนอีกคนไปท่าเรืออ่าวโล้ง รอถ่ายภาพแสงเช้า แล้วมันคุ้มกับที่ถ่างตาตื่นหรือไม่ ให้ภาพเป็นคำตอบเอาเองเถอะ… ฟินในฟิน




ข้อดีของการตื่นเช้าอีกอย่างคือทำให้เราได้เห็นความสงบและความเรียบง่ายของชุมชนชาวเกาะเปริด บ้านเรือนส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านไม้ประตูบานเฟี้ยม หลายหลังทาสีสันให้สดใสแม้จะหม่นลงตามกาลเวลา บอกเลยว่าเป็นโลเกชั่นเหมาะมาเดินถ่ายภาพเล่นมาก น่าเสียดายควงกันมาผู้ชายสองคน เลยไม่ค่อยอยากจะยกกล้องถ่ายกันเองสักเท่าไหร่ (ฮา…)



ตรงนี้คือศาลเจ้าเกาะเปริด เทียบให้เห็นกับภาพครั้งอดีตบริเวณเดียวกันก่อนมีการถมทะเลสร้างถนนเชื่อมเกาะกับแผ่นดินครับ (เป็นภาพที่ใช้มือถือถ่ายจากภาพในมือถือของคนบนเกาะอีกทีนะครับ)



กลับถึงเจริญกัลป์โฮมสเตย์แล้วผมกลับมาอ่าวโล้งอีกรอบ กินอาหารเช้าที่ร้านปู่ทะเล เป็นข้าวต้มง่ายๆ แต่อร่อยมาก

เช้านี้อากาศแจ่มใสพอสมควร ลมพัดแค่เบาๆ คลื่นบางๆ เหมาะกับการออกเรือ ว่าแล้วเราไปเที่ยวเกาะกวางกันดีกว่า นั่งเรือหางออกไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว


ไม่มีที่มาแน่ชัดว่าทำไมที่นี่ถึงชื่อเกาะกวาง แน่ๆ คือไม่มีกวางสักตัว และแน่ๆ อีกเหมือนกันคือมีจุดชมวิวสวยมาก มองย้อนกลับมาเห็นเกาะเปริดแบบชัดเจน ชายหาดบนเกาะกวางสีน้ำตาลแดง มีหาดหินสีสวยๆ ด้านใต้จุดชมวิวมีถ้ำเล็กๆ ด้วยครับ เก๋กู๊ดเหมาะมาถ่ายภาพและเล่นน้ำมาก



ว่ากันว่าที่เกาะกวางมีแนวปะการังน้ำตื้นด้วย น่าเสียดายว่าช่วงนี้พายุฤดูร้อนเข้า น้ำไม่ใสเท่าไหร่ก็เลยอด เจ้าถิ่นบอกว่าช่วงสวยของทะเลย่านนี้คือตั้งแต่ธันวาถึงมีนา และหลังปีใหม่คือตอนพีคที่สุดของปีครับ


กลับจากเกาะกวาง พวกเราเก็บข้าวของอำลาเจริญกัลป์ โฮมสเตย์ และเกาะเปริด เป็นอะไรที่ใช้คำว่ามีความสุขและสนุกมากๆ น่าเสียดายว่าอากาศช่วงเมษามันก็จะมีลมมีคลื่นค่อนข้างเยอะสักหน่อย ซึ่งไม่ต้องห่วงเลยเพราะผมนอนยันได้ว่าตัวเองต้องมีทริปที่นี่อีกรอบ หรืออาจจะหลายรอบแน่ๆ เพียงแค่คราวหน้าไม่มากับเพื่อนแล้วนะ ขอมาแค่สองคนกับ “เธอ” ก็พอ (ฮา…)
ออกจากเกาะเปริด แต่ทริปยังไม่จบหรอกครับ มาเที่ยวจันทบุรีทั้งทีขอแวะโน่นแวะนี่สักหน่อยนะ ยิ่งช่วงนี้เป็นเวลาทองของทุเรียน จะพลาดได้ไง เลือกมาหนึ่งสวนแล้วตรงไปเลย สวนพวงมณี อำเภอที่นี่เป็นสวนต้นกำเนิดทุเรียนพวงมณีในตำนานครับ ปัจจุบันคุณยายมณีที่เป็นที่มาของชื่อพวงมณียังแข็งแรง อายุเข้าเลขเก้าสิบแล้ว
บรรยากาศที่สวนพวงมณีร่มรื่นมากครับ พื้นที่เขียวสวยร่มรื่น ที่สำคัญไม่ได้รกรุงรังเหมือนสวนผลไม้ทั่วไป แต่ตกแต่สวนไว้สวยอย่างดี มีมุมถ่ายรูปด้วย ผมเพิ่งมาสวนนี้เมื่อก่อนเดือน ได้กลับมาอีกครั้งก็ยังชอบเหมือนเดิม



ช่วงที่เราไปเกือบปลายเมษายนทุเรียนพวงมณีใกล้จะหมดแล้ว (ตอนไปครั้งแรกปลายมีนาคมยังไม่สุก… อยากจะร้องไห้) แต่หมอนทองกำลังออกพอดี เนื้อเน้นๆ เนียนๆ กัดแต่ละคำอร่อยมาก จะซื้อแบบเป็นลูกเป็นกิโล หรือกินแบบบุฟเฟ่ต์ก็เลือกได้ครับ ราคาหัวละ 400 บาท เปิดจนกว่าจะหมดฤดูกาล จากที่สอบถามปีนี้ผลไม่เยอะมาก น่าจะยื้อได้ถึงปลายๆ พฤษภาคม ยังไงก่อนเข้าไปทานก็รบกวนโทรจองคิว และสอบถามสถานการณ์ผลไม้กับทางสวนโดยตรงอีกทีครับ โทร. 0849407956, 0819826990
และเดี๋ยวนี้ทริปเดินทางคงเก๋ไก๋โดนใจวัยรุ่นเป็นไปไม่ได้ ถ้าขาดคาเฟ่ดีๆ ถ่ายรูปสวยๆ สักร้าน จิ้มมาเลยหนึ่งที่ได้ เล เกลือ คาเฟ่ ชื่อบอกชัดเลยว่าที่นี่อยู่ติดกับนาเกลือ อยู่ในอำเภอท่าใหม่ครับ มาพักตากแอร์จิบเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ชื่นใจได้เลย น่าเสียดายว่าเมื่อวานมีฝนตกแถวนี้ เลยไม่มีกองเกลือสวยเก๋ให้เราถ่ายรูปเพราะเขารีบโกยรีบเก็บไปเรียบร้อยแล้ว
โดยรวมร้านน่ารักบรรยากาศดีครับ บริการก็ดี มุมถ่ายรูปกลางแจ้งเก๋ๆ พอสมควร หากมาตอนเย็นน่าจะเด็ดเลยล่ะ ส่วนข้างในร้านแอร์เย็นฉ่ำ เครื่องดื่มรสชาติโอเค ราคาไม่ได้แพงอะไร ผมสั่งโอรีโอปั่น สดชื่นฟินๆ
เล เกลือ คาเฟ่ เปิดทุกวันครับ 10.00-18.30 น. ถ้าสนใจดูเพจเฟซบุ๊กของเขาก็เสิร์ชหาได้เลย เล เกลือ คา เฟ่ Lay gleua cafe


จากนั้นเข้าตัวอำเภอท่าใหม่สักหน่อย ว่ากันว่าย่านนี้ของกินอร่อยเยอะโดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยว พวกเราเลือกกินก๋วยเตี๋ยวท่าใหม่ ร้านห้องแถวสองคูหาริมถนนธรรมดาๆ แต่รับประกันไม่ผิดหวังครับ ทีเด็ดอยู่ที่หมูสับชิ้นเบ้อเริ่ม ใหญ่จนเพื่อนตั้งฉายาให้ว่าก๋วยเตี๋ยวหมูบัง คือบังเครื่องอื่นๆ ทุกอย่างในชามจนมิด ยิ่งใครสั่งหมูพิเศษได้โปะมาชิ้นครึ่งก็มิดชามกันเลย
อร่อย รสดี เครื่องแน่น ทั้งเครื่องหมูแล้วก็ทะเล มีทั้งน้ำใส ต้มยำ เย็นตาโฟ แล้วก็หมูสะเต๊ะกินเล่น ราคา 50 60 70 บาท คุ้มค่าน่าลองครับ ร้านเปิดทุกวัน 7.00-14.30 น. โทร. 039431137 ครับ



นั่นแหละครับทริปจันทบุรีสองวันหนึ่งคืน เที่ยวเกาะเปริด พ่วงด้วย คาเฟ่ ก๋วยเตี๋ยว และทุเรียน บอกหน่อยเถอะว่า ฟินกว่านี้มีอีกมั้ยยยยยยยย (ฮา…)
แพ็คเกจเจริญกัลป์โฮมสเตย์ เกาะเปริด นำเที่ยวในชุมชน พร้อมอาหาร 3 มื้อ มื้อเย็นเป็นบุฟเฟ่ต์ทะเล วันหยุดคนละ 1,500 บาท วันธรรมดาคนละ 1,300 บาท ควงคู่มากันแค่สองคนก็รับนะครับ และมีแพ็คเกจอื่นเริ่มต้นแค่คนละ 800 บาท
สอบถามเพิ่มเติมและจองห้องพัก ติดต่อคุณบอย 0973290193 หรือ เฟซบุ๊ก : เจริญกัลป์ โฮมสเตย์ (www.facebook.com/CGHomestay)
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller
