เกาะกลาง ชุมชนน่ารักปากแม่น้ำกระบี่

ทริปเดินทาง : 25-26 กรกฎาคม 2563

เกาะกลาง เมืองกระบี่ รู้จักกันไหม ไปเที่ยวกันเถอะ… เกาะขนาดใหญ่ซึ่งไม่ได้อยู่กลางทะเล แต่หันหน้าออกทะเล ไม่ใช่เกาะน้ำใส ไม่ใช่เกาะหาดทรายขาว แต่ก็เป็นเกาะซึ่งเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม วิถีผู้คนที่ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย มีเสน่ห์ให้ค้นหา พกกล้องถ่ายรูปสักตัวก็ไปเที่ยวได้แบบสนุกสนาน เป็นเหมือนเพชรเม็ดงามทางด้านการท่องเที่ยวที่ต่างออกไปของกระบี่

บนเกาะกลางเป็นที่อยู่ของชุมชนชาวมุสลิม ชาวบ้านมีอาชีพประมง เกษตร ก่อนจะเริ่มเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวเมื่อประมาณ 20 ปี ที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น เรือหัวโทงจำลอง ผาปาเต๊ะ ผามัดย้อม กะลามะพร้าวแปรรูป นักท่องเที่ยวสามารถมาเรียนรู้ตามฐานกิจกรรมต่างๆ จนถึงปัจจุบันเรียกว่าติดลมบน ถึงแม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยที่มากระบี่แล้วตรงไปออกทะเลสักเท่าไหร่ก็เถอะ

การเที่ยวเกาะกลางทำได้ง่ายดายเพราะมีท่าเรือหลายท่าสามารถข้ามไป สะดวกสุดคือท่าเรือสวนสาธารณะธารา มีเรือหัวโทงให้บริการตลอดตั้งแต่เช้าตรู่ยันดึกดื่น ค่าโดยสารคนเดียวเหมาลำแค่ 30 บาท หากมีคนแชร์ด้วยก็ถูกลง หรือใครจะเอามอเตอร์ไซค์ข้ามก็ได้นะ เหมาะลำ 60 บาท มีคนหารถูกลงเช่นกัน

อีกท่าคือท่าเจ้าฟ้า ใกล้กับตัวเมือง จะมาขึ้นเกาะกลางที่ท่าหิน ที่นี่ผู้โดยสารเหมาลำ 100 บาท เพราะเรือวิ่งไกลกว่าแต่บรรยากาศดี ไม่พลุกพล่าน เลือกขึ้นลงท่าไหนก็ตามสะดวก

ถึงเกาะกลางแล้วจะเหมารถมอเตอร์ไซค์พ่วงเที่ยว หรือขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวเองก็สะดวกดี ราคารถพ่วงพาเที่ยว 400-800 บาท ตามระยะเวลาครึ่งวันหรือเต็มวัน เช่ามอเตอร์ไซค์คันละ 200-300 บาท หรือจะเช่าแบบชั่วโมงเดียวสองชั่วโมงก็โอเค

ครั้งนี้ผมมาแบบเหมาทริปมีโปรแกรมเต็มที่ เริ่มต้นด้วยการที่เรือหัวโทงพาเรามาล่องชมวิวอุโมงค์ป่าโกงกางสวยๆ ในลำคลองกันก่อน สองฝั่งเขียวสวยและอะเมซซิ่งมาก เราสนุกกับการถ่ายรูปกันอุตลุดเชียวล่ะ

ทะลุออกจากป่าโกงกางแล้ว เรามาขึ้นเกาะกลางทานอาหารเที่ยงที่ร้านมะหญิง ร้านดังบนเกาะ เมนูซีฟู้ดสดแบบการันตีไม่มีผิดหวังแน่นอน กุ้ง หอย ปู ปลา เนื้อแน่น ราคามาตรฐานตามคุณภาพ ขายโดยชาวบ้าน

อิ่มหนำแล้วก็ได้เวลาขึ้นเรืออีกครั้งเพื่อไปเที่ยวเขาขนาบน้ำ อีกหนึ่งที่เที่ยวของแม่น้ำกระบี่ซึ่งเป็นเมือนสัญลักษณ์ของจังหวัดด้วย ที่นี่ไม่ได้อยู่บนเกาะกลางนะครับ แต่ไม่ไกลกันใช้เวลานั่งเรือสิบนาทีเท่านั้นเอง

เราสามารถขึ้นไปเที่ยวที่เขาขนาบน้ำ มีโถงถ้ำกว้างๆ กับหินงอกหินย้อย และเรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เคยตั้งถิ่นฐานตามถ้ำหินปูนในภูมิภาคนี้

ขากลับออกมา มองจากแม่น้ำกระบี่ฝั่งนี้เห็นเขาขนาบน้ำซึ่งมีแนวภูเขาที่ตั้งของเจดีย์วัดถ้ำเสือเป็นฉากหลัง (มองเห็นเจดีย์กันไหมเอ่ย… เสียดายจริงๆ ที่ไม่มีเลนส์เทเล)

ได้เวลาเดินทางขึ้นเกาะกลางแบบจริงจังสักที เรามาขึ้นเกาะที่ท่าเรือท่าหิน เราเดินไปที่ คิดถึง คอทเทจ (www.facebook.com/kidthung.cottage โทร. 0814947470) โฮมสเตย์สไตล์บ้านสวนเล็กๆ ที่มีบังมัตถ์ ผู้ประสานงานกลุ่มชุมชนท่องเที่ยวบ้านเกาะกลาง กับมูนา ศรีภรรยาคนสวยเป็นคนสร้างสรรค์ขึ้นมา

นอกจากเป็นที่พักแล้ว ยังมีโซนคาเฟ่เล็กๆ ใช้คำว่า “คราฟเฟ่” หมายถึงคาเฟ่กับงานคราฟเล็กๆ น้อยๆ ใครมาเยี่ยมเยือนก็จะมีเวิร์คช็อปนิดหน่อย เป็นกิจกรรมให้เราอมยิ้มด้วยความอบอุ่น

และที่ผมชอบมากคือชาไพลิน เป็นชาที่ทำด้วยข้าวสังข์หยด ข้าวพันธุ์อร่อยของเกาะกลางผสมกับใบเตย บังมัตถ์กับมูนานำมาคิดค้นจนเป็นสูตรเฉพาะ ทานอุ่นๆ คู่กับขนมกลีบมาลา อร่อยมากครัับ

จากนั้นขึ้นยานพาหนะหลักของเกาะกลางในการท่องเที่ยวคือมอเตอร์ไซค์พ่วงกันล่ะ ในทริปของชุมชนเราจะได้ขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนนักท่องเที่ยววอล์คอินสามารถว่าจ้างนำเที่ยวได้เหมือนกันครับ ครึ่งวันราคา 300-400 บาท เต็มวันราว 700-800 บาท นั่งสักสี่คนกำลังดี นั่งเรื่อยๆ ชมวิวชมบ้านเรือนบนเกาะเพลินใจจริงๆ

เรามาแวะที่ศูนย์การเรียนรู้ฯ ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุมชนของเกาะกลางซึ่งมีพี่นิตเป็นประธาน มีการทำผ้ามัดย้อมจากสีของต้นโกงกาง แสม หูกวาง มะพร้าว พืชถิ่นอีกหลากหลาย ส่วนมากให้สีโทนน้ำตาล สาวๆ คนไหนอดใจไม่ไหวก็ต้องช้อปปิ้งกันตามระเบียบ

แต่ผมติดใจพื้นที่หลังบ้านพี่นิตมากกว่า ในภาพถ่ายกับแบ็คกราวน์นี้คือที่เดียวกันในระยะเวลาห่างกันประมาณสิบกว่าปี (จนเด็กในภาพโตเป็นหนุ่มแล้วนั่นแหละ)

เมื่อก่อนพื้นที่เกาะกลางฝั่งนี้เจอปัญหาคลื่นซัดกัดเซาะชายหาดอยู่ตลอดจนบ้านเรือนต้องโยกย้ายขยับเข้ามาเรื่อยๆ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนเกิดความพยายามปลูกป่าชายเลนขึ้นมาเพื่อเป็นแนวกันคลื่นตามธรรมชาติ และหลังลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง ความสำเร็จจึงเกิดขึ้น พี่นิตไม่จำเป็นต้องย้ายบ้านหนีน้ำอีกแล้วเพราะได้ต้นไม้เหล่านี้ช่วยไว้นั่นเอง

ระหว่างทางเข้าที่พักในวันนี้เจอจุดชมวิวสวยมาก จนต้องขอลงจากมอเตอร์ไซค์พ่วงแวะถ่ายภาพกันเลย มองเห็นทะเลอันดามันไกลสุดลูกหูลูกตา มีเกาะไก่ และหมู่เกาะปอดะ วางตัวเรียงกันอยู่เป็นพร็อพเก๋ๆ

แล้วเราก็มาถึงที่พัก อัยลันดา ไฮด์อเวย์ รีสอร์ท (www.facebook.com/islandakrabi โทร. 0896142333) เป็นรีสอร์ทที่ดีที่สุดบนเกาะกลางครับ บอกเลยว่าวิวเลอค่ามากๆ โดยเฉพาะสาวๆ คงต้องกรี๊ดกับสระว่ายน้ำสวยริมทะเล ที่สำคัญยังวางตัวอยู่สุดเกาะกลางสมกับชื่อไฮด์อเวย์ เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบส่วนตัวมากมาย

บรรยากาศที่รีสอร์ทวันนี้คือดีเหลือเกิน มีพวกเราเข้าพักเพียงกรุ๊ปเดียว แถมในวันที่ฟ้าเป็นใจอะไรก็ดีทั้งนั้น ว่าไหมครับ

ยามเช้าอีกวัน วิวทะเลจากหน้ารีสอร์ทอาจไม่ใช่ชายหาดขาวน้ำใส แต่กลับมีเสน่ห์เรียบง่ายจนอยากหยุดเวลาไว้

หนึ่งในภาพคุ้นชินของทะเลเกาะกลางคือทุกเช้าและเย็นจะมีชาวบ้านมาเดินหาหอยเป็นกิจวัตร หากใครต้องการร่วมกิจกรรมสนุกๆ แบบนี้ติดต่อทางชุมชนได้นะ มีไกด์ผู้ชำนาญพาเรามาลองหาหอยกัน

หลังเช็คเอาต์จากโรงแรม เรามีโอกาสเยี่ยมชมศูนย์ผลิตภัณฑ์ชุมชนซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับเกาะกลางมาตั้งแต่ดั้งเดิม คือกลุ่มผลิตภัณฑ์เรือหัวโทงจำลอง เรียกว่าเป็นของฝากระดับ OTOP นักท่องเที่ยวคนไทยเราอาจดูแล้วไม่ค่อยว้าวเท่าไหร่ แต่ขอบอกว่าต่างชาติชอบมาก

อันนี้คือภูมิปัญญาไฟตบโบราณ สร้างประกายไฟโดยใช้แรงดันอากาศกับเศษขี้เลื่อย อยากได้สักอันไว้พกเท่ๆ ตอนเดินป่าก็ติดตรงราคาแรงไปนิดนึง (ฮา…)

จากนั้นไปต่อที่กลุ่มอาชีพสตรีทำผ้าปาเต๊ะ ซึ่งเราได้มีโอกาสลองเพนท์หรือระบายสีผ้ากันด้วย ลงสีไปก็เกร็งกันไปกลัวว่าจะทำของเขาเสียหรือเปล่า เพราะฝีมือด้านศิลปะมีไม่เยอะเสียด้วย

เพราะเวลาจำกัด เราจึงต้องโบกมืออำลาการเที่ยวเกาะกลางไว้เพียงเท่านี้ ซึ่งความจริงยังมีสิ่งน่าสนใจ และมุมมองสวยๆ บนเกาะอีกเยอะแยะ แต่ถึงจะเป็นเพียงเวลาไม่นานนักก็พอบอกได้ว่าเกาะกลางเป็นเกาะน่ารักจริงๆ มีเสน่ห์และเหมาะกับการท่องเที่ยวหลากหลาย

จะมาศึกษาเรียนรู้ด้านงานชุมชน มาดูวิถีชีวิตผู้คน สายชิคสายชิลมาหามุมถ่ายรูปสวยๆ หรือมาพักผ่อนแบบไฮด์อเวย์ให้สบายกายสบายใจ ไม่ว่าจะแนวไหนชาวเกาะกลางก็พร้อมต้อนรับด้วยรอยยิ้มเสมอครับ… รักที่นี่จริงๆ เลย


ติดต่อกลุ่มชุมชนท่องเที่ยวบ้านเกาะกลาง
โทร. 0814947470 (บังมัตถ์)
เฟซบุ๊ก เกาะกลาง เกาะหน้าเมืองบี่ – Koh Klang Krabi
www.facebook.com/CBT.KlongPrasong

ติดต่อ คิดถึง คอทเทจ
โทร. 0814947470 (บังมัตถ์)
เฟซบุ๊ก คิดถึง คอทเทจ – kidthung cottage
www.facebook.com/kidthung.cottage


ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
https://www.facebook.com/alifeatraveller

About the author