ลุยป่าเขากำแพง ธรรมชาติเมืองกาญจน์ ที่ไม่ต้องไปไกลถึงทองผาภูมิ

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-0

ทริปเดินทาง : 3-4 กันยายน 2559

“ที่ไหนนะ… เขากำแพง” ยอมรับตามตรงว่าผมขมวดคิ้วนิดหน่อยตอนได้ยินชื่อครั้งแรก แต่เมื่อคนชวนมีน้ำใจชวน ผมเองก็ควรสนองรับคำชวน ก่อนมารู้จากอากู๋ทีหลังว่าเขากำแพงเป็นเส้นทางเที่ยวเดินป่าขึ้นเขา ของอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ กาญจนบุรี

ทำความเข้าใจสักนิด เพราะเมื่อพูดถึงเส้นทางเที่ยวป่าเมืองกาญจน์ ที่ร้องอ๋อก็ต้องพวก เขาช้างเผือก สันหนอกวัว ลำคลองงู ทองผาภูมิ ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของจังหวัด แต่ อช.เฉลิมรัตนโกสินทร์ อยู่ฝั่งตะวันออก ที่ทำการอุทยานฯ อยู่ในเขตอำเภอศรีสวัสดิ์ แต่เป็นคนละฝากป่ากับน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น หรือน้ำตกเอราวัณ เดินทางง่ายกว่าจากอำเภอหนองปรือ ติดกับสุพรรณบุรี เป็นโซนซึ่งนักท่องเที่ยวไม่นิยมมากนัก

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-1

ทริปสองวันหนึ่งคืน เสาร์-อาทิตย์ ต้นเดือนกันยายน ทว่าเราเดินทางตั้งแต่คืนวันศุกร์ กระจัดกระจายจากหลายที่ นัดรวมพลนอนค้างด้านล่างที่ที่ทำการอุทยานฯ เพื่อเตรียมตัวขึ้นเขาเช้าวันถัดไป วิธีการเดินทางสู่อุทยานฯ สะดวกด้วยรถส่วนตัวเท่านั้น ไม่งั้นต้องหารถเหมามาจากตัวอำเภอหนองปรือ (ที่อยู่อยู่อำเภอศรีสวัสดิ์แต่อย่าไปทางนั้นเด็ดขาดเชียวล่ะ) ระยะทางราว 20 กิโลเมตร

เช้าวันใหม่มาถึง รวมพลครบสิบเจ็ดชีวิต – สิบหกคนไทย กับฝรั่งนิวซีแลนด์อีกหนึ่ง ตื่นมาก็จัดแจงทำอาหารเช้ากินกันก่อน พร้อมเตรียมข้าวกลางวันไปกินกันระหว่างทาง

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-2

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-3

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-4

จุดเริ่มต้นขึ้นเขาอยู่ห่างจากที่ทำการฯ 2 กิโลเมตร เลือกได้ว่าจะเดินหรือนั่งรถ (มีค่าบริการเพิ่มเติม ผมสรุปให้ตอนท้าย) ซึ่งดูจากสถานการณ์แล้วเราขอถนอมแรงไว้ขึ้นเขาดีกว่า นั่งรถไปแล้วกันนะ

เจ้าหน้าที่นำทางสองคน เจ้าหน้าที่ลูกหาบอีกสาม รถมารับพวกเราสองรอบ ผมอยู่กรุ๊ปหลัง เริ่มเดินตอนสิบโมงเศษ

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-5

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-6

ขอบอกว่าตั้งแต่ก้าวแรกก็เป็นการเดินขึ้นเลยแหละ ทางไม่ชันมากครับแต่เหมือนร่างกายไม่ได้วอร์มอัพอะไรสักนิด เล่นเอาแต่ละคนหอบเหมือนกันแฮะ แถมเพราะด้วยไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก ร่องทางเลยไม่ชัด ป่าไผ่ช่วงแรกก็ค่อนข้างโปร่ง ซ้ายไปได้ ขวาไปได้ ตรงไปได้ รับรองว่าถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่นำทางมีหลงป่าแน่นอน

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-7

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-8

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-9

พวกเราเดินเลาะไหล่เขามาเรื่อยๆ ประมาณสี่สิบนาทีจึงมาถึงจุดที่ชื่อว่าเขาโบราณ เรียกแบบนี้เพราะมีการพบซากกำแพงหินเก่าแก่ รวมทั้งหลุมฝังศพมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาตร์ และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ สันนิษฐานว่าตรงนี้คงเคยเป็นชุมชน เป็นจุดยุทธศาสตร์การรบ เส้นทางเดินทัพในศึกอยุธยา-หงสาวดี รวมทั้งน่าจะเคยเป็นเส้นทางของทหารญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สองด้วย

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-10

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-11

ความสูงของเขาโบราณอยู่ที่ 680 เมตร ส่วนจุดหมายของเรา 1,260 เมตร แต่หากเทียบเป็นระยะทาง เราเพิ่งออกตัวมาได้นิดเดียว เพราะเริ่มเดินที่ความสูงประมาณ 300 เมตร

ประมาณ 11.30 น. มาถึงที่พักจุดแรกสมทบกับกลุ่มนำที่รออยู่แล้ว จัดการมื้อกลางวันเติมพลังให้เรียบร้อย มีจุดเติมน้ำธรรมชาติอยู่ด้วย ขอย้ำว่าเป็นจุดเดียวของการเดินป่าครั้งนี้นะครับ เพราะฉะนั้นเตรียมให้พร้อม มีห้องน้ำห้องท่าแบบขัดตราทัพให้เข้าในกรณีฉุกเฉิน

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-12

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-13

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-14

ขอถ่ายภาพรวมสักแช้ะ เพราะตอนเริ่มเดินเราแยกกันมาสองกลุ่ม

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-15

เอาล่ะ… จากนั้นต้องลุยกันเต็มเหนี่ยวแล้วสิ เส้นทางยังค่อนข้างดิบมาก อุปสรรคขวางตลอด บางช่วงชวนให้หลงเหลือเกิน ร่องทางไม่มีเลยสักนิด อีกคนอ้อมซ้าย อีกคนอ้อมขวา แต่เดินไปเดินมาเดี๋ยวก็ซอกแซกมาเจอกันจนได้

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-16

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-17

คลำทางต้อยๆ ตามหลังเจ้าหน้าที่สักครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงจุดท้าทายที่สุดของการพิชิตเขากำแพง กับการขึ้นเนินที่มีชื่อว่า “เนินสามก้าว”

อ่านช้าๆ ชัดๆ “สามก้าว” ไม่ใช่ “สามเก้า” ความหมายตรงตัวชัดเจนว่าเดินสามก้าวก็ต้องพักแล้วล่ะ (ฮา…)

เนินสามก้าวโหดสมชื่อทีเดียว เป็นทางชันลากยาวขึ้นและขึ้นตลอดความสูงหลายร้อยเมตร อย่าว่าแต่พวกเราเลยที่เดินสามก้าวพัก ขนาดเจ้าหน้าที่แค่ไม่กี่ก้าวพักเหมือนกัน รู้สึกว่าสัมภาระถ่วงหลังมันหนักเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยแฮะ

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-18

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-19

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-20

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-21

ฮึดแล้วฮึดอีก พักแล้วพักอีก จนบ่ายสองโมงนิดๆ ถึงผ่านเนินสามก้าวขึ้นมาได้ มองลอดแนวต้นไม้ออกไปเห็นเขากำแพงและจุดพักแรมอยู่ฝั่งตรงข้าม หมายความว่าเราต้องเดินอ้อมไปตามโค้งสันเขาสินะ

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-22

ฝนเริ่มตกปรอยๆ ขณะที่พวกเราเลาะสันเขาไปสู่จุดหมาย ทางยังคงชันขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มากเหมือนกับเนินสามก้าว กลุ่มเริ่มกระจัดกระจายเพราะจากนี้ไปไม่มีหลงแล้ว หลายช่วงหญ้าคาขึ้นสูงแทบท่วมหัว เจ้าหน้าที่ต้องคอยฟันแหวกทาง อย่างที่บอกคือไม่ค่อยมีใครขึ้นมาสักเท่าไหร่

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-23

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-24

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-25

บ่ายสามโมงสิบห้านาที หลังก้มหน้าก้มตาฝ่าดงหญ้าคาและสายฝนโปรยมาได้ก็ถึงสันเขาจุดนี้ เป็นจุดแรกครับที่เราเห็นวิวสวยๆ ของผืนป่าเขียวขจี อช.เฉลิมรัตนโกสินทร์ แบบเต็มตา

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-26

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-27

ทั้งลมทั้งฝนทั้งหมอกมาครบ สดชื่นมากมาย

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-28

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-29

จากนั้นเส้นทางเลี้ยวซ้ายพาเราเข้าป่าทึบ ก่อนโผล่พ้นแนวป่าขึ้นมาเจอหมอกขาวห่มคลุมไปทั่วเขากำแพง

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-30

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-31

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-32

ในที่สุดประมาณสี่โมงครึ่ง เราก็มาถึงจุดตั้งแคมป์ ผมมาเป็นกลุ่มสุดท้ายเพราะมัวแต่โอ้เอ้ถ่ายรูปมากกว่าใคร เบ็ดเสร็จใช้เวลาตั้งแต่เริ่มเดิมรวมหกชั่วโมงนิดๆ กับระยะทางราว 7 กิโลเมตร

สภาพที่ตั้งแคมป์ของเขากำแพง เป็นทางลาดเอียงนิดหน่อย พื้นที่น้อย ไม่ค่อยมีที่โล่ง เหมาะกับผูกเปลมากกว่ากางเต็นท์ แต่เพราะข้อมูลผิดพลาดกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ในตอนแรก ทำให้กลุ่มเราเอาเต็นท์กันมาหลายคน (ผมก็หนึ่งในนั้น) ต้องแบ่งที่ทางกันไป นอนแบบไหลๆ นิดหน่อย

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-33

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-34

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-35

ส่วนเรื่องทาก เราไม่พบเลยสักตัวระหว่างทางจนมาเจอเมื่อถึงยอดเขา จำนวนไม่มากนัก กระจุกอยู่เป็นจุดๆ มากกว่า มีคนโดนดูดเลือดสามสี่คน ส่วนผมไม่ได้ป้องกันอะไรยังโชคดีรอดมาได้สบาย

วิวจากเขากำแพงตรงนี้สวยจังเลย (ฮา…)

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-36

ไม่เป็นไรครับ เวลาเราเหลือเฟือ พ้นห้าโมงเย็นสักพักฟ้าก็เริ่มเปิดทีละน้อย จนในที่สุดจึงได้เห็นวิวกว้างไกลสมใจ

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-37

จากจุดชมวิว มีป้าย (ที่ปลิวหลุดไปแล้วและพวกเราไปตามเก็บกันมา) เป็นศูนย์กลาง มองแบบนาฬิกา ทางซ้ายที่ 9.00 น. คือ อช.เฉลิมรัตนโกสินทร์ และทางที่เราเดินเลาะสันเขาขึ้นมา ส่วนที่ 11.00 น. มองไปไกลสุดตาแบบข้ามเขาลิบๆ หลายลูกคือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ฝั่งอำเภอบ้านไร่ อุทัยธานี ด้านเฉียงหน้า 1.00 น. มองข้ามเขาไปไกลๆ เช่นกันคืออุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี ยอดเขาเทวดาก็อยู่ทิศนี้ ส่วนพื้นที่เกษตรด้านหน้าเราคือตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ ถัดไปอีกหน่อยก็เขตอำเภอหนองปรือ

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-38

ฟ้าเปิดแบบนี้สนุกมือตากล้องประจำทริปอย่างผมแหละนะ กดชัตเตอร์อย่างมันเชียวล่ะ

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-39

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-40

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-41

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-42

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-43

สำหรับมื้อเย็น ทีมพ่อครัวแม่ครัวบรรจงกันสุดฝีมือ บอกเลยว่าอยู่บ้านไม่ได้กินเปรมขนาดนี้นะเนี่ย (ฮา…)

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-44

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-46

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-45

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-47

อากาศช่วงหัวค่ำไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ครับ พอเดาออกว่าคืนนี้ต้องลำบากแน่นอน ซึ่งเป็นจริงดังคาด สักสองทุ่มลมก็โหมฝนกระหน่ำแบบรุกฆาตกะเอากันให้เละ ใครผูกเปลรีบหลบเข้าเปล มีเต็นท์หลบเข้าเต็นท์ สำหรับพวกนอนปลาทู (ปูผ้าใบรองพื้น กางฟลายชีตเป็นหลังคา) ก็หนักหน่อย ต้องนอนเล่นน้ำกันตามระเบียบ

คืนนั้นฝนเทหนักมากหลายชั่วโมง ลมโหยหวีดหวิวอยู่ตลอด ความหวังที่จะตื่นมาพร้อมพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ย่อมหายไปด้วย พอตื่นนอนเปิดเต็นท์มาสิ่งที่เห็นก็เป็นไปอย่างที่คิด… ขาวโพลนทั่วสารทิศ แต่ถึงอย่างนั้นพวกเรายังเฮฮาได้ไม่เป็นปัญหา

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-48

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-49

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-50

ป้ายที่เราไปเก็บกลับมาได้ครับ แต่ไม่เห็นวิวซะแล้ว (ฮา…)

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-51

ต้องรอหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จและเตรียมตัวลงเขา สิบโมงกว่านั่นแหละ ฟ้าถึงเริ่มใจดีเปิดให้เราเห็นวิวเขียวๆ แบบหอมปากหอมคอเป็นการอำลาเขากำแพง

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-52

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-53

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-54

เพราะเมื่อคืนฝนตกไม่บันยะบันยัง ขาลงเลยค่อนข้างทุลักทุเล วัดพื้นกันคนละครั้งสองครั้งตามระเบียบ ใช้เวลาลงมาถึงจุดที่รถมารอรับ รวมเวลาพักกินข้าวแล้วก็ประมาณสี่ชั่วโมง

หากถามว่าการพิชิตเขากำแพงลำบากไหม ขอตอบตามตรงว่าขณะที่เขียนอยู่นี้ผมลืมไปหมดแล้วจริงๆ ว่ามันยากยังไง ลำบากยังไง หนักแค่ไหน ที่จำได้มีแค่เพียงรู้สึกสดชื่นอย่างไรกับวิวบนนั้น อิ่มเอิบแค่ไหนตอนไปยืนให้สายฝนปะทะใบหน้า สุขใจปานใดตอนมองสายหมอกคลอเคลียภูเขาสีเขียว

เมื่อยืนอยู่บนยอดเขาตรงนั้นแล้ว ความยากลำบากที่ผ่านมาทั้งหมดมันมลายหายไปสิ้นเชิง ความเหนื่อยน่ะยังอยู่แต่ไม่ได้ท้อแท้อะไรอีกแล้ว ไม่รู้สึกว่ามันยากเกินกำลัง บางทีนั่นอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผมหลงรักการเดินป่า

ความจริงการเดินป่าเขากำแพงยังมีเส้นทางไปเที่ยวน้ำตกบนภูเขาด้วยนะครับ เห็นเจ้าหน้าที่ว่าสามารถไปค้างแรมได้ด้วย ใครสนใจลองติดต่อกันดู

อ้อ… อช.เฉลิมรัตนโกสินทร์ ยังมีที่เที่ยวง่ายๆ คือถ้ำธารลอดน้อย กับถ้ำธารลอดใหญ่ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติเชื่อมต่อกัน ระยะทางเดิน ไป-กลับ 5 กิโลเมตร รวมถึงมีน้ำตกสไลเดอร์อยู่แถวที่ทำการฯ

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-55

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-56

%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%b3%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%87-57

น่าเสียดายว่าผมชมได้แค่ถ้ำธารลอดน้อย ไปไม่ถึงธารลอดใหญ่ เพราะเขากำหนดเวลาเที่ยวถึงแค่ 16.30 น. คราวหน้าคงต้องหาเวลามาแก้ตัว เอาเต็นท์มากางนอนสักคืนแล้วเที่ยวถ้ำทั้งสองแห่ง รวมทั้งเล่นน้ำตกอีกนิดหน่อย

จบบริบูรณ์ปิดรีวิวปิดทริปเพียงเท่านี้แหละ หวังว่าคงรู้กันแล้วนะครับว่าป่าเมืองกาญจน์ไม่ได้มีแค่ ไทรโยค ทองผาภูมิ สังขละบุรี หรือ ศรีสวัสดิ์ เท่านั้น


ค่าใช้จ่ายให้อุทยานฯ ในการเดินป่าเขากำแพง

      • ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ คนไทย 40 บาท ต่างชาติ 200 บาท
      • ค่าธรรมเนียมรถยนต์ 30 บาท จักรยานยนต์ 20 บาท
      • ค่าธรรมเนียมพักแรม ต่อคน ต่อคืน 30 บาท
      • ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง และลูกหาบ 800 บาท ต่อคน ต่อวัน (กรุ๊ปผมอุทยานฯ ให้ใช้รวม 5 คน)
      • ค่ารถรับ-ส่ง ที่ทำการฯ-ทางเดินขึ้นเขา 800 บาท (ค่าคนขับ 300 บาท ค่ารถไป-กลับ 500 บาท กรุ๊ปผมต้องใช้รถสองเที่ยว รวมเป็น 1,300 บาท)

ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller


About the author