มุมสงบท่ามกลางความคึกคัก @ บาราคูด้า พัทยา เอ็มแกลเลอรี่ บาย โซฟิเทล

baraquda_000

ทริปเดินทาง : 27-29 กันยายน 2559

หากพูดชื่อพัทยา ภาพที่เราคิดถึงมักคือความคึกคัก เมืองแห่งแสงสีความบันเทิง และยิ่งเอ่ยถึงโรงแรมซึ่งตั้งอยู่ใจกลางพัทยา เราคงจินตนาการภาพโรงแรมที่มีนักท่องเที่ยวมากมายขวักไขว่ตลอดเวลา ยอมรับว่าผมเองก็คิดเช่นนั้นแหละ จนกระทั่งมีโอกาสมาพักที่นี่… บาราคูด้า พัทยา เอ็มแกลเลอรี่ บาย โซฟิเทล

ราวเดือนที่ผ่านมาด้วยภารกิจการทำงานทำให้มีโอกาสได้มาอินสเป็คพักที่โรงแรมบาราคูด้า พัทยา เอ็มแกลเลอรี่ บาย โซฟิเทล สามวันสองคืน งานนี้เลยต้องสะกิดคนข้างกายให้เดินทางมาด้วยกันสักหน่อย แหม… ถ้าพักโรงแรมดีๆ ขนาดนี้คนเดียวคงเหงาแย่ (ฮา…)

ว่ากันถึงตัวโรงแรมก่อน หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อเอ็มแกลเลอรี่ในทำเลอื่นๆ เพราะเอ็มแกลเลอรี่เป็นคอลเล็คชั่นโรงแรมในแบรนด์โซฟิเทล จุดเด่นอยู่ตรงการตกแต่งบูทิคโฉบเฉี่ยว แต่ให้ความสำคัญที่ความผ่อนคลาย ความรู้สึกเป็นกันเอง โดยยังคงไว้ด้วยการบริการระดับห้าดาว ในบ้านเราตอนนี้มีทั้งหมดเจ็ดแห่ง

baraquda_001

ต่อมาคือทำเลที่ตั้ง บาราคูด้า พัทยา วางตัวอยู่กลางเมืองพัทยา บนถนนพัทยาสายสอง ตรงข้ามกับพัทยา ซอย 13/2 เป็นศูนย์กลางความสะดวก ด้านข้างคือ ดิอะเวนิว กับเมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ ส่วนเซ็นทรัล เฟสติวัล อยู่ห่างออกไป 700 เมตร และรอยัล การ์เด้น พัทยา อยู่ใกล้ๆ แค่ 200 เมตร

ทว่าท่ามกลางความคึกคักเหล่านี้ เหลือเชื่อว่าภายในโรงแรมบาราคูด้า พัทยา กลับเงียบสงบอย่างที่สุด เพียงก้าวเข้ามาจะพบว่าเหมือนหลุดเข้าสู่อีกโลกหนึ่ง แตกต่างจากข้างนอกอย่างสิ้นเชิง เพราะอะไรนั้นเดี๋ยวเราชมโรงแรมไปพร้อมกับทำความเข้าใจนะครับ

ทริปนี้สามวันสองคืน เราจึงไม่รีบร้อน เดินทางถึงช่วงบ่ายๆ นั่งรถตู้มาจากกรุงเทพ ต่อสองแถวมาลงหน้าโรงแรมอย่างสะดวกโยธิน

ล็อบบี้ของโรงแรมบาคารูด้า พัทยา สวยไฉไลโอ่โถงโล่งสบาย มาถึงปุ๊บพนักงานก็เชิญเราเอนหลังนั่งบนโซฟาหนานุ่ม ทำการเช็คอินให้อย่างรวดเร็ว พร้อมกระซิบบอกว่าที่นี่มีกฎสำคัญหนึ่งข้อ ห้ามให้แขกยืนเช็คอิน ต้องนั่งสบายๆ เท่านั้น… เก๋ไหมล่ะ

baraquda_002

baraquda_003

baraquda_004

ความเก๋ต่อมาคือเขามีเวลคัม ดริ๊งค์ ให้เราเลือกตั้งสิบสองรายการ ทั้งแบบมีหรือไม่มีแอลกอฮอล์ ใครหลงใหลน้ำสีอำพัน บอกดังๆ ไปเลยว่าจะรับสิงห์ หรือช้าง

baraquda_005

ภายในพื้นที่กะทัดรัด โรงแรมจัดสรรปันส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างดี ห้องพักมีสามรูปแบบ 72 ห้อง คือ ดีลักซ์ – ห้องพักของเรา สวีท และ ดูเพล็กซ์ ทุกห้องกว้างขวาง เตียงคิงส์ไซส์นอนสบาย หมอนขนเป็ดน่าหนุน มีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ มีโซฟาสำหรับเอนหลัง ทีวีปรับองศามุมมองได้ตามถนัดตา พร้อมเครื่องเล่นดีวีดี

baraquda_006

baraquda_007

baraquda_008

baraquda_009

แต่โมเดิร์นไม่มีใครเกินเห็นจะเป็นห้องอาบน้ำแอบโอเพ่น ไม่ใช่โอเพ่นแอร์ แต่เป็นโอเพ่นรูม เปิดโล่งไม่มีประตู แถมผนังยังเป็นกระจกใสทั้งหมด ที่จริงเขามีผ้าม่านรูดเปิดปิดให้มิดชิดได้ครับ ทว่าผมกับคนข้างๆ มองหน้าแล้วยิ้มให้กัน คิดว่าเปิดโล่งไว้แบบนี้คงดีกว่า (ฮา…) ช่างเป็นห้องอาบน้ำที่อีโรติคเซ็กซี่เหลือเกิน

baraquda_010

baraquda_011

baraquda_012

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ในห้องก็ครบครันตามมาตรฐานโรงแรมระดับนี้ครับ คงไม่ต้องบรรยายให้มากความ

baraquda_013

baraquda_014

สำหรับห้องสวีทจะมีห้องนั่งเล่นแยกเพิ่มมาจากห้องนอน พิเศษด้วยอ่างอาบน้ำอยู่ไม่ไกลจากเตียงนอน ขณะที่ห้องดูเพล็กซ์มีสองชั้น ห้องนั่งเล่นอยู่ชั้นล่าง ห้องนอนอยู่ชั้นบน และเช่นเดียวกับห้องสวีท คือมีอ่างอาบน้ำให้เอนกายนอนแช่สบายๆ

baraquda_015

baraquda_016

baraquda_017

baraquda_018

baraquda_019

หลังจากเดินชมห้องทุกรูปแบบเสร็จแล้ว เราสองคนลงมาเก็บภาพยามโพล้เพล้ที่ล็อบบี้ แสงสวยโดดเด่นยิ่งกว่าตอนมาถึงเสียอีก

baraquda_020

baraquda_021

baraquda_022

baraquda_023

เพราะโรงแรมตั้งอยู่ใจกลางพัทยา สิ่งที่เราคิดไว้ก่อนมาถึงคือน่าจะถ่ายรูปลำบาก ผู้คนคงพลุกพล่าน แต่เอาเข้าจริงกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คุยกับพนักงานได้ความว่าเพราะโรงแรมอยู่ใกล้ความสะดวก แขกมักใช้เวลาอยู่ข้างนอก กว่าจะกลับเข้ามาก็กลางดึก ตื่นกันสายโด่ง ตื่นแล้วก็เที่ยวต่อ เมื่อวัฎจักรวนเวียนอยู่เช่นนี้ ภายในโรงแรมจึงเหมือนโอเอซิสแห่งความสงบ โดยไม่สนใจว่าด้านนอกจะคึกคักเพียงใด

ที่นี่มีห้องอาหารหลักเปิดตั้งแต่เช้าคือ S.E.A. (South East Asian Cuisine) ริมสระว่ายน้ำ นอกจากทานเบรคฟาสต์ ช่วงเวลาอื่นรวมทั้งยามเย็นเงียบสงบผ่อนคลาย แขกเกือบทั้งหมดมักออกไปเที่ยวและทานข้าวข้างนอก ทำให้ใครก็ตามซึ่งดินเนอร์ในโรงแรมจะได้สัมผัสบรรยากาศดีมากๆ

baraquda_024

baraquda_025

baraquda_026

ดินเนอร์ของเราสองใต้แสงไฟโรแมนติกที่ห้องอาหาร S.E.A. มีทาปาสเซ็ตเป็นออร์เดิร์ฟ ต่อด้วยเซ็ตซูชิโรลไส้ปูนิ่ม ข้าวซอยไก่ ทีเด็ดสุดอยู่ที่ซีฟู๊ดออนไอซ์ หรือชุดทะเลลวกจิ้ม เที่ยวเมืองชายทะเลทั้งทีมันต้องสดๆ ตัวโตๆ แบบนี้สิ ทั้งหมดนี้ทานคู่กับแซงเกรีย หรือไวน์แดงผสมพันช์ ก่อนตบท้ายด้วยของหวานมูสราสเบอร์รี่กับไวท์ช็อคโกแลต เป็นมื้อแสนวิเศษทั้งรสชาติและบรรยากาศ

baraquda_027

baraquda_028

baraquda_029

baraquda_030

อ้อ… ที่นี่มีห้องอาหารอีกแห่งคือซันเซ็ตเลานจ์ เป็นห้องอาหารยามเย็นบนดาดฟ้า แต่ช่วงที่ผมเข้าพักกำลังปิดปรับปรุงพอดี ตอนนี้กลับมาเปิดให้บริการแล้วเรียบร้อยครับ

ยามเช้ามาเยือน เตยงนอนสบายจนแทบไม่อยากจะลุก ไม่น่าแปลกใจที่เราลงมาห้องอาหารเป็นสองคนแรก ไลน์อาหารดูไม่ใหญ่นักแบบนี้แต่ว่าคุณภาพจัดเต็มเชียวล่ะ อาหารไทย ตะวันตก จีน มีให้เลือกตักตามสบาย

baraquda_031

baraquda_032

baraquda_033

baraquda_034

เก๋ๆ อีกอย่างคือใครสั่งข้าวต้มเครื่อง โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยว จะมาเสิร์ฟให้เราในหม้อดินแบบนี้ เล่นเอาอิ่มตื้อตั้งแต่เช้าเลยทีเดียว

baraquda_035

baraquda_036

ส่วนอีกทีเด็ดมาถึงนี่แล้วไม่ทำไม่ได้คือการเล่นน้ำ สระว่ายน้ำไม่ใหญ่แต่สวยเหลือเกิน มองจากมุมบนจะเห็นเป็นรูปปลาบาราคูด้า มีเตียง เก้าอี้ ที่นั่งเรียงราย มีสระเด็กตรงหางปลา ที่ใครก็ต้องชอบคือโรงแรมมีห่วงยางรูปสัตว์น่ารัก แพยาง บอลยาง ให้เล่นเพลินๆ ด้วยนะ

baraquda_037

baraquda_038

baraquda_039

baraquda_040

baraquda_041

วันนี้พักผ่อนสบายๆ แล้วลองมาสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นของโรงแรมกันดีกว่า เริ่มต้นด้วยฟิตเนส เปิดตลอด 24 ชั่วโมง แตะการ์ดเข้าไปด้านในปุ๊บ ไฟฟ้าจะติดโดยอัตโนมัติ

baraquda_042

baraquda_043

ใครชอบนวดอโรมาผ่อนคลาย นวดไทย หรือทำสปา มีให้ใช้บริการเช่นเดียวกัน สามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่ล็อบบี้

baraquda_044

baraquda_045

เคียงข้างกับสปาคือคลับเลานจ์ สำหรับผู้ถือบัตร Le Club Accor Hotels มาพักผ่อนระดับวีไอพีเชียวล่ะ

baraquda_046

baraquda_047

ที่นี่ยังมีห้องประชุม DNA ความจุ 80 คน และ DEEP BAR สำหรับจัดประชุม สัมมนา หรือกิจกรรม ช่วงที่เราไป ร้านกาแฟยี่ห้อดังกระฉ่อนทะลุโลกมาจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เล็กๆ กันด้วย

baraquda_048

baraquda_049

baraquda_050

ด้วยความที่โรงแรมเงียบมากทำให้เราใช้พื้นที่ได้เต็มที่ ช่วงกลางวันเราเปลี่ยนบรรยากาศเดินไปกินร้านไก่ทอดเกาหลีของโปรดที่รอยัล การ์เด้น ก่อนกลับมาสลัดเสื้อผ้าลงเล่นน้ำ เป็นการพักผ่อนที่ฟินสุดๆ ใครอื่นจะออกไปเที่ยวข้างนอกเราไม่สน ขอสบายอยู่ในโรงแรมนี่เพอร์เฟคสุดแล้ว

หน้าโรงแรมมีมุมร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อ Nauti Cafe หลังเล่นน้ำเราเปลี่ยนบรรยากาศไปจิบน้ำชายามบ่าย เซ็ต High Tea ดูผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา เป็นพัทยาที่มีแต่ความคึกคัก แต่เมื่อมองย้อนเข้าไปในโรงแรมกลับเหลือเชื่อว่าช่างเงียบสงบทั้งที่แขกเข้าพักเกือบเต็ม ถือเป็นเรื่องดีที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับการเข้าพักที่นี่ครับ

baraquda_051

baraquda_052

มื้อเย็นวันที่สอง เราทานกันในห้องอาหาร S.E.A. เช่นเดิม (ยังอิ่มจากเซ็ตน้ำชาอยู่เลย) ขอลองเมนูไม่หนักท้องอย่าง ทรีโอสะเต๊ะ กับ เบอร์เกอร์เนื้อ เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟราย ตบท้ายด้วยการนั่งชิลจิบค็อกเทลริมสระว่ายน้ำซึ่งตอนกลางคืนจะเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ

baraquda_053

baraquda_054

baraquda_055

baraquda_056

เพราะความสบายระดับนี้ เมื่อถึงเวลาเช็คเอาต์จึงเป็นไปแบบค่อนข้างลำบากใจ (ฮา…) หากเป็นเมื่อก่อนถ้าใครชวนมาพักโรงแรมพัทยา ผมคงไม่ค่อยอยากจะมาสักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้กลับตรงกันข้าม เพราะเมื่อได้เดินทางมากขึ้นก็ได้เห็นอะไรมากขึ้นด้วย แทบไม่อยากเชื่อครับว่ากลางเมืองพัทยา มีมุมแบบนี้ที่โรงแรมบาราคูด้า พัทยา ให้เราสัมผัส

baraquda_057

แล้วก็ล่ะนะ… ห้อยท้ายว่า บาย โซฟิเทล คงการันตีอะไรอีกหลายต่อหลายอย่างได้ว่า ที่นี่เจ๋งขนาดไหน


ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller


 

About the author