ทริปเดินทาง : 9-11 ตุลาคม 2559
ต้นเดือนตุลาคม ผมมีโอกาสพาคนข้างกายไปพักผ่อนให้สบายกาย ที่โรงแรมแห่งใหม่ล่าสุดของอมารี “อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา” ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการสดๆ ร้อนๆ เมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา ตามคำชวนของโรงแรม เพราะมีคอนเน็คชั่นกันอยู่เล็กน้อย จึงถือโอกาสรีวิวโรงแรมใหม่กิ๊กแห่งนี้มาให้ชมกันด้วยครับ
ก่อนเดินทางลองเช็คราคาดูผ่านเว็บไซต์โดยตรงของโรงแรม ราคาเริ่มต้นสำหรับห้องพักสองคนอยู่ที่พันปลายๆ จนถึงสามพันกว่าบาท มีโปรโมชั่นอยู่ตลอด เป็นตัวเลือกไม่เลวที่ดีสำหรับมาตรฐานบริการระดับอมารี
อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา ตั้งอยู่ในโซนเขาพระตำหนัก ห่างจากอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ หรือจุดชมวิวอ่าวพัทยา ประมาณ 1 กิโลเมตร บริเวณนั้นไม่มีรถสองแถวประจำทางผ่านนะครับ หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัวแล้วเดินทางเองต้องใช้บริการพี่วิน หรือจ้างสองแถวราคาตามตกลง แต่วิธีดีกว่านั้นคือนั่งรถตู้รับ-ส่ง ของโรงแรม วิ่งระหว่างโรงแรมกับเซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา วันละหลายเวลา ใครอยากใช้บริการแจ้งโรงแรมล่วงหน้าดูนะ
ทริปนี้เรา – ผมกับเธอหนึ่งเดียวคนนั้น ไม่เร่งรีบเพราะตั้งใจมาพักผ่อน เดินทางถึงโรงแรมตอนบ่ายแก่ ๆ อาคารสูงลิบกว่าสามสิบชั้น แหงนมองกันคอตั้งเลยทีเดียว บรรยากาศภายในล็อบบี้เรียบง่ายแต่ดูดีมีระดับผสมความหรูหรานิดหน่อย ชุดโซฟาหนานุ่มวางตามมุมต่างๆ อย่างลงตัว ผนังด้านหนึ่งประด้บด้วยโลหะหล่อรูปปลากระเบนฝูงใหญ่
พักตากแอร์จิบเวลคัมดริงค์เย็นฉ่ำพร้อมการเช็คอิน พนักงานต้อนรับเล่าให้เราฟังว่าที่นี่เป็นโรงแรมกึ่งคอนโดมีเนียม พื้นที่โรงแรมถึงชั้นสิบห้า ตั้งแต่ชั้นสิบหกขึ้นไปเป็นห้องพักส่วนบุคคล ทั้งสองส่วนบริหารจัดการแยกกันรวมทั้งล็อบบี้ ที่ใช้ร่วมกันมีเพียงลิฟต์ความเร็วสูงเท่านั้น
ห้องพักของ อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา มีทั้งหมด 8 รูปแบบ หากแบ่งคร่าวๆ คือ ซูพีเรีย – วันเบดรูม สวีท และ ทูเบดรูม สวีท ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นรูปแบบห้องดีลักซ์ กับห้องตรงคอร์เนอร์หรือหัวมุม ขนาดใหญ่กว่าเห็นวิวมากกว่า รวมถึงห้องโอเชียน เฟซซิ่ง หันหน้าออกทะเล ทุกห้องยกเว้นซูพีเรียจะมีห้องครัวรวมอยู่ด้วย รายละเอียดทั้งหมดลองเข้าไปดูได้ในหน้าเว็บไซต์ของโรงแรมครับ http://th.amari.com/residences-pattaya
ห้องพักของเราอยู่ชั้นสิบห้า ชื่อเต็มยาวเหยียดว่า วันเบดรูม คอร์เนอร์ สวีท โอเชียน เฟซซิ่ง แค่ก้าวแรกเข้าไปในห้องก็ต้องยิ้มกว้างแล้วล่ะ ห้องพักโทนสีขาวกว้างขวาง ดูสะดวกสบาย และที่สำคัญคือใหม่สะอาดอย่างมาก
ห้องนั่งเล่นมีระเบียงมองเห็นทะเลพัทยาเต็มสองตา วิวสวยเชียว และมีห้องครัวมุมใหญ่พร้อมอุปกรณ์ครบครัน เพราะอย่างที่เคยเกริ่นไปแล้วว่าที่นี่เป็นโรงแรมสไตล์คอนโดมีเนียม แถมด้วยตู้เย็นใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่บ้านเสียอีก (ฮา…)
หากห้องนั่งเล่นว่าเด็ดแล้ว ห้องนอนนั้นเด็ดยิ่งกว่า เตียงกับชุดเครื่องนอนของอมารีการันตีเรื่องความสบายอยู่แล้ว หมอนขนเป็ดนุ่มนิ่มน่ากอดเหลือเกิน ผนังฝั่งหนึ่งเป็นกระจกใสทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราเปิดผ้าม่านรับวิวสดชื่นได้แบบเต็มๆ
ต่อมาคือห้องน้ำ โล่งขนาดนี้เชียวหรือ… ไม่หรอกน่า เขามีม่านไฟฟ้าเปิดขึ้น-ลง ด้วยการกดปุ่มเพียงนิดเดียว
ที่ผมชอบมากคือเจลอาบน้ำกับยาสระผม ใช้ผลิตภัณฑ์ของ บรีซ สปา ซึ่งเป็นสปาชั้นยอดประจำโรงแรมในเครืออมารี กลิ่นตะไคร้หอมหอมสุดๆ เล่นเอาอาบน้ำแต่ละครั้งใช้เวลานานเหลือเกิน
นอกจากความใหม่ สะอาด กว้างขวาง เขายังเน้นเทคโนโลยีนำสมัย ปุ่มเปิดปิดไฟต่างๆ เป็นระบบทัชสกรีน แถมมีเซ็นเซอร์เปิดปิดไฟอัตโนมัติยามเราเดินเข้ามาในห้องนอนหรือห้องน้ำอีกต่างหาก ส่วนทีวีก็มีเมนูแนะนำบริการต่างๆ ของโรงแรมให้ครบทุกอย่าง อยากรู้ข้อมูลตรงไหนกดเลือกตามใจชอบ
ทีนี้ขอพาไปดูห้องรูปแบบอื่นของโรงแรมในภาพรวมกันบ้างครับ การตกแต่งของทุกห้องเป็นธีมเดียวกัน ยกเว้นห้องซูพรีเรียที่ไม่มีครัวและระเบียง ที่เหลือทุกแบบทั้ง สวีท คอร์เนอร์สวีท ดีลักซ์สวีท โอเชียนเฟซซิ่ง มีทั้งนั่งเล่น ห้องครัว ระเบียง โต๊ะทานอาหาร ต่างกันตรงขนาดห้อง กับวิวทิวทัศน์ หากเป็นห้องดีลักซ์สวีทจะมีอ่างอาบน้ำด้วย
อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา เพิ่งเปิดใหม่ ตอนนี้ยังคงไม่มีห้องอาหารกลางวันหรือเย็น แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือบริการอิน-รูม ไดนิ่ง โทรศัพท์สั่งอาหารจากครัวมาทานภายในห้องพักหรือส่วนใดของโรงแรมก็ได้ รับออร์เดอร์สุดท้ายเวลาสี่ทุ่ม รายการอาหารก็วางอยู่ตรงหน้าทีวีนั่นแหละ ยกหูโทรศัพท์ได้ทันที
มื้อแรกในตอนเย็นเราสองคนขอลองอาหารไทยๆ กันก่อ สั่งยำเนื้อย่าง กับต้มขาไก่ มาทานแบบพออิ่มพอดี ขอบอกเลยครับว่ารสชาติถูกปากมาก ค่อนข้างจัดจ้าน ไม่ได้ทำให้ฝรั่งทานเหมือนกับโรงแรมส่วนใหญ่ ทานกันเกลี้ยงไม่มีเหลือ
ลงมาเก็บตกถ่ายภาพล็อบบี้ด้านล่างช่วงค่ำๆ อีกบรรยากาศสักหน่อย ช่วงกลางคืนดูสวยกว่ากลางวันเยอะเลยครับ
นอนหลับสบาย ตื่นมาตอนเช้าเปิดม่านให้กว้างเพื่อชมวิวทะเลจากชั้นสิบห้า อะไรมันจะเพอร์เฟกต์ขนาดนั้น
ไปสำรวจอาหารเช้ากันดีกว่า ห้องอาหารเช้ามีชื่อว่า บราสเซอรี่ (Brasserie) เลือกนั่งทานอาหารได้ทั้งด้านในและระเบียงด้านนอก
ไลน์เบรกฟาสต์ของ อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา ไม่ถึงกับใหญ่โตอลังการ แต่ก็มีอาหารพร้อมแบบไม่ขาด ไทย จีน ตะวันตก เลือกกันตามอัธยาศัย เมนูต่างๆ สลับผลัดเปลี่ยนกันทุกวันไม่ให้จำเจสำหรับคนเข้าพักต่อเนื่อง อร่อยทุกอย่าง เชฟที่นี่ค่อนข้างทำอาหารรสชาติถูกปากคนไทยครับ
ปกติมาพักโรงแรมดีๆ แบบนี้ผมมักใช้เวลาพักผ่อนนอนขี้เกียจอยู่ในโรงแรมนั่นแหละ แต่หากใครเป็นคนแอ็คทีฟ เขามีฟิตเนสเปิดให้ออกกำลังตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะไปนั่งชิลปล่อยอารมณ์ริมสระว่ายน้ำขนาดย่อม สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มาดริ๊งค์ให้ชื่นใจ สระที่นี่มีสไลเดอร์เก๋ๆ ให้เล่นด้วย
สำหรับใครอยากเที่ยวตัวเมืองพัทยา อย่างที่บอกตอนต้นครับว่ามีรถตู้รับ-ส่ง ระหว่างโรงแรมกับเซ็นทรัล เฟสติวัล วันละหลายรอบ ติดต่อล็อบบี้ได้เลย
อีกมุมหนึ่งที่อยากแนะนำคือ อโรม่า เดลี่ (Aroma Deli) มุมคาเฟ่เล็กๆ ด้านข้างล็อบบี้ มีบริการเครื่องดื่ม อาหารว่าง หรือจะสั่งอาหารมื้อหลักจากในครัวมานั่งทานก็ได้ ซึ่งเราเลือกมานั่งทานข้าวกลางวันที่นี่ ลองอาหารตะวันตกดูบ้าง มีเชฟสลัด เสิร์ฟพร้อมขนมปัง กับอโรม่า คลับ แซนด์วิช ที่เพียงแค่หน้าตาก็โดนใจอย่างแรงแล้ว ฟันธงครับว่านอกจากอาหารไทยอร่อยแล้ว อาหารตะวันตกก็เยี่ยมไม่แพ้กัน
ข้อดีมากอีกอย่างหนึ่งของโรงแรม อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา คือความเงียบสงบครับ เพราะตั้งอยู่โซนเขาพระตำหนัก เป็นย่านที่พักและคอนโดมีเนียม ทำให้ปราศจากสถานบันเทิงหรือความพลุกพล่าน เป็นพัทยาในแบบที่ผมมาเที่ยวตั้งหลายครั้งแล้วยังไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีมุมนี้อยู่ด้วย
และแม้จะไม่ติดทะเล แต่หากใครอยากดื่มด่ำบรรยากาศริมทะเล สามารถเดินไปหาดโคซี่บีชอยู่ใกล้ๆ (แต่เรื่องความสวยงามเป็นไปในลักษณะชายหาดของพัทยาล่ะนะ) หรือจะไปทานอาหารอาบลมทะเลที่ เดอะ สกาย แกลเลอรี่ พัทยา ทางลงหาดโคซี่บีช หรือช็อคโกแลต แฟ็คทอรี่ ที่อยู่ข้างกันก็ได้ครับ
สำหรับเราสองคนหลังเพลินๆ ที่สระว่ายน้ำ ก็เลือกทานดินเนอร์กันที่ห้องพักดีกว่า (กินอีกแล้ว… ฮา)
มื้อเย็นคราวนี้จัดหนักจัดเต็ม อย่างแรกคือซีซาร์สลัด ผักสดๆ เสิร์ฟพร้อมขนมปัง ต่อมาเป็น บราสเซอรี่ เบอร์เกอร์ ถือเป็นซิกเนเจอร์ มีทั้งเนื้อและกุ้งตัวกำลังดี สุดท้ายคือ แลมพ์ โรแกน จอช เรียกเป็นภาษาไทยก็คงประมาณแกงกระหรี่แกะ เเสิร์ฟคู่กับแป้งนาน ทั้งหมดนี้ทานกับค็อกเทลเบาๆ สองแก้ว เป็นดินเนอร์ของเราสองซึ่งอิ่ม อร่อย โรแมนติก และอิ่มทั้งท้องทั้งใจมายครับ ก็แหมอะไรมันจะทำให้ผู้ชายสักคนรู้สึกแฮปปี้มากไปกว่าเห็นคู่ชีวิตมีความสุขใช่ไหมล่ะ
เก็บภาพโรงแรมยามโพล้เพล้มาฝากกันนิดหน่อยครับผม
วันสุดท้ายของการพักผ่อน หลังทานอาหารเช้าเสร็จสรรพ เราเลือกพักผ่อนเอนกายสบายๆ อยู่บนห้องพัก วิวทะเลพัทยาฟ้าใสๆ จากห้องพักชั้นสิบห้านั้นสวยจริง ฝั่งหนึ่งมองเห็นเกาะล้านอยู่ไม่ไกล อีกฝังมองไปเห็นอ่าวพัทยา ทั้งสปีดโบ๊ตและเรือโดยสารวิ่งกันขวักไขว่
กระทั่งใกล้เที่ยง เราจึงต้องตัดใจเช็คเอาต์อำลา อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา แบบยังอยากอยู่ต่ออีกสักสองคืน (ฮา…) นั่งรถของทางโรงแรมเข้าตัวเมืองพัทยาเพื่อต่อรถกลับบ้าน
เวลาสั้นๆ สามวันสองคืน อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา เป็นอะไรที่เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ เหมาะทั้งกับมาโรแมนติกหวานแหววกับคนรัก หรือมากับครอบครัวก็เข้าท่า ชื่ออมารีการันตีมาตรฐานด้านการบริการอยู่แล้ว พนักงานยิ้มแย้ม แถมห้องพักก็ใหม่ สะดวกสบาย สะอาดสะอ้าน
ในภาพรวมคงต้องสรุปสั้นๆ ว่าหากอยากมาผ่อนคลายสบายๆ ที่พัทยา อมารี เรสซิเดนซ์ พัทยา เป็นตัวเลือกที่ดีมากเลยล่ะครับ
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller