ตามรอยพระราชา : คืนชีวิตให้ผืนป่า สิรินาถราชินี

หากคุณไปเที่ยวโดยไม่รู้ข้อมูลอะไร คงบอกแค่ว่าที่นี่เป็นป่าชายเลนซึ่งสวยดี แต่ถ้าคุณรู้เรื่องราวและที่มาที่ไป คุณอาจเริ่มรู้สึกว่าศูนย์ฯ สิรินาถราชินี ช่างอัศจรรย์

วันนี้ ที่นี่คือป่าชายเลนพื้นที่เกือบ 800 ไร่ แต่ในอดีตมันคือนากุ้งร้างเสื่อมสภาพอย่างหนัก กระทั่งได้รับการฟื้นฟูจนกลับมาสมบูรณ์ด้วยพระราชดำริของในหลวง ร.9 และพระราชินี

ตั้งอยู่ที่ อ.ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางสะดวกด้วยรถยนต์ส่วนตัว ตั้ง GPS ในมือถือนำทางไปได้เลย เปิดให้ชมฟรีทุกวัน 8.30-16.30 น. >>> www.facebook.com/SirinartCenter

ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร และมีอะไรน่าสนใจ ไปชมกันครับ

จุดเริ่มต้นจากพระราชดำริ

จุดเริ่มต้นของศูนย์ฯ เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 ครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เสด็จเยือนอำเภอปราณบุรี และทอดพระเนตรเห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้เสื่อมโทรมอย่างหนักจากการทำนากุ้ง จึงมีพระราชดำริให้กรมป่าไม้ฟื้นฟูป่าชายเลนอย่างเร่งด่วน

ฟื้นนากุ้งกลับคืนเป็นผืนป่

กรมป่าไม้สนองพระราชดำริด้วยการยกเลิกสัมปทานนากุ้ง พร้อมผนวกพื้นที่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรี เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองเก่า – คลองคอย ก่อนในเวลาต่อมา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะเข้าร่วมโครงการเพื่อปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ

สร้างป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์

การปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ปากน้ำปราณบุรีประสบผลสำเร็จอย่างมากด้วยความร่วมมือของทุกฝ่าย กระทั่งเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 องค์ในหลวง ร.9 พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินมาในพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ

ประชาชนได้ใช้ประโยชน์

ครั้งนั้น ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า “ปลูกป่าชายเลนแล้วต้องให้ชาวบ้านได้ประโยชน์ และในขณะเดียวกันก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์ด้วย” ซึ่งเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการในเวลาต่อมา

จัดสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) น้อมนำกระแสพระราชดำรัสมาพัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน ในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งตรงกับวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 72 พรรษา

พระราชทานนาม สิรินาถราชินี

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงพระราชทานนามศูนย์แห่งนี้ว่า สิรินาถราชินี

เป็นที่อยู่ที่อาศัยสรรพชีวิต

เมื่อป่าชายเลนเริ่มกลับมาอุดมสมบูรณ์ สรรพชีวิตน้อยใหญ่ก็ได้ใช้ประโยชน์จากผืนป่า สัตว์น้ำสัตว์ทะเลมากขึ้น ชาวประมงแห่งปากน้ำปราณก็ได้รับประโยชน์ด้วยเช่นกัน

เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ

นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ซึ่งประชาชนสามารถมาเยี่ยมชม ท่องเที่ยว และใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เพราะรอบพื้นที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียว ให้ความร่มรื่นร่มเย็น

เปิดให้ชมฟรี ทุกวัน

ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี เปิดให้เข้าศึกษาเยี่ยมชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ สำหรับหมู่คณะที่ต้องการศึกษาดูงาน หรือทัศนศึกษาเป็นกลุ่ม ติดต่อได้ที่ 032-632 255

เส้นทางธรรมชาติรื่นรมย์

ภายในพื้นที่ป่าชายเลน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติทอดยาวที่สวยงามระยะทางราว 1 กิโลเมตร สามารถเดินเที่ยวได้ทุกเพศ ทุกวัย แนะนำว่าควรทาหรือฉีดยากันยุงสักหน่อย เพราะป่าชายเลนธรรมชาติมักจะยุงเยอะเป็นพิเศษ

เพลินเรียนรู้ระบบนิเวศมากมาย

ที่นี่มีห้องเรียนทั้งนอกอาคารและในอาคาร เริ่มต้นด้วยการศึกษาภายในพิพิธภัณฑ์ฯ จากนั้นเดินชมสภาพพื้นที่จริง พร้อมป้ายสื่อความหมาย รวมถึงบทเรียนจากที่เราเคยทำลายธรรมชาติเมื่อครั้งอดีตให้เรียนรู้

หอชะครามสูงตื่นตา

หนึ่งในไฮไลท์ของการมาเยือนศูนย์ฯ สิรินาถราชินี คือการขึ้นชมวิวผืนป่าชายเลนทอดตัวเขียวขจีบนหอชะคราม ความสูงประมาณตึกหกชั้น ชมวิวได้รอบทิศทาง

ซึมซับแรงบันดาลใจ ในหลวงของปวงชน

จากพื้นที่เสื่อมสภาพซึ่งพวกเราทำลายลง หากไม่เพราะองค์ในหลวงทรงทอดพระเนตรเห็นถึงปัญหา และมีพระราชดำริให้แก้ไขฟื้นฟู ทุกวันนี้ปากน้ำปราณบุรีอาจไม่ได้อุดมสมบูรณ์เหมือนอย่างที่เป็นอยู่ พระองค์ทรงสอนเราว่าหากตั้งใจจริง มนุษย์ก็สามารถสร้าง ฟื้นฟู และอนุรักษ์ป่า

ในพื้นที่ป่าชายเลนของศูนย์ฯ ยังมีต้นโกงกางซึ่งองค์ในหลวง และสมเด็จพระเทพฯ ทรงปลูกเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจให้เราร่วมมือกันดูแลธรรมชาติต่อไป


ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
http://www.facebook.com/alifeatraveller


About the author